ทะเบียนชื่อบุคคล
การขอเปลี่ยนชื่อตัว (ช.3)
หลักเกณฑ์การเปลี่ยนชื่อตัว
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินี หรือราชทินนาม
- ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- ต้องเป็นคำหรือพยางค์เดียวกัน จะเว้นวรรคไม่ได้
- ห้ามมิให้ระบุชื่อตัว ร่วมกับหรือประกอบกับคำเชื่อมอักษร สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายใด ๆ ที่มิได้กำหนดไว้ในกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการเกี่ยวกับทะเบียนชื่อบุคคล
- ต้องมีความหมายหรือคำแปลที่กำหนดในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือพจนานุกรมฉบับอื่น
- ใช้ตัวสะกดตัวการันต์ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
- ไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี และความสงบเรียบร้อยของสังคม
- ไม่มีเจตนาทุจริต
ขั้นตอน/วิธีการ
- ผู้มีสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะขอเปลี่ยนชื่อตัว ให้ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
2.1 เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
2.2 ตรวจสอบคำขอกับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
2.3 ตรวจสอบชื่อตัวที่ขอเปลี่ยน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด - เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
3.1 สั่งอนุญาตในคำขอ
3.2 บันทึกในทะเบียนชื่อตัว (ช.3/1)
3.3 ออกหนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว (ช.3)
3.4 เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 50 บาท
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
**************************************
การขอตั้งหรือเปลี่ยนชื่อรอง (ช.3)
หลักเกณฑ์การตั้งหรือเปลี่ยนชื่อรอง
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินี หรือราชทินนาม
- ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- ต้องไม่พ้องกับชื่อสกุลของบุคคลอื่น เว้นแต่กรณี
3.1 คู่สมรสใช้ชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นชื่อรอง เมื่อได้รับความยินยอมจากฝ่ายนั้นแล้ว
3.2 บุตรใช้ชื่อสกุลเดิมของมารดาหรือบิดาเป็นชื่อรองของตน - ต้องเป็นคำหรือพยางค์เดียวกัน จะเว้นวรรคไม่ได้
- ห้ามมิให้ระบุชื่อรอง ร่วมกับหรือประกอบกับคำเชื่อมอักษร สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายใด ๆ ที่มิได้กำหนดไว้ในกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการเกี่ยวกับทะเบียนชื่อบุคคล
- ต้องมีความหมายหรือคำแปลที่กำหนดในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือพจนานุกรมฉบับอื่น
- ใช้ตัวสะกดตัวการันต์ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
- ไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี และความสงบเรียบร้อยของสังคม
- ไม่มีเจตนาทุจริต
ขั้นตอน/วิธีการ
- ผู้มีสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะตั้งหรือเปลี่ยนชื่อรอง ให้ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
2.1 เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
2.2 ตรวจสอบคำขอกับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
2.3 ตรวจสอบชื่อรองที่ขอเปลี่ยน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด - เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
3.1 สั่งอนุญาตในคำขอ
3.2 บันทึกในทะเบียนชื่อรอง (ช.3/1)
3.3 ออกหนังสือสำคัญแสดงการตั้งหรือเปลี่ยนชื่อรอง (ช.3)
3.4 เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 50 บาท สำหรับการเปลี่ยนชื่อรอง ส่วนการตั้งชื่อรองไม่เสียค่าธรรมเนียม
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
**************************************
การขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลหรือขอตั้งชื่อสกุลใหม่ (ช.2)
หลักเกณฑ์การขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลหรือขอตั้งชื่อสกุลใหม่
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย หรือพระนามของพระราชินี
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่ ราชทินนามของตน ของผู้บุพการี หรือ ของผู้สืบสันดาน
- ไม่ซ้ำกับชื่อสกุลที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ หรือชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว
- ไม่ซ้ำกับชื่อสกุลในฐานข้อมูลทะเบียนชื่อบุคคล และฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- มีพยัญชนะไม่เกินสิบพยัญชนะ เว้นแต่ กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล
- ไม่ต้องห้ามตามประกาศ ดังนี้
- ประกาศห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานนามสกุลใช้ “ณ” นำหน้านามสกุล ลงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2458
- ประกาศเพิ่มเครื่องหมายนามสกุลสำหรับราชตระกูล ลงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2458
- ประกาศแก้เครื่องหมายนามสกุลสำหรับราชสกุล ลงวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2467
- ประกาศห้ามมิให้เอานามพระมหานคร และไม่ให้เอาศัพท์ที่ใช้เป็นพระบรมนามาภิไธย มาใช้เป็นนามสกุล ลงวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2458
- ประกาศห้ามไม่ให้เอานามพระมหานคร มาประกอบกับศัพท์อื่นใช้เป็นนามสกุล ลงวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2459
- ต้องเป็นคำหรือพยางค์เดียวกัน จะเว้นวรรคไม่ได้
- ห้ามมิให้ระบุชื่อสกุล ร่วมกับหรือประกอบกับคำเชื่อมอักษร สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายใด ๆ ที่มิได้กำหนดไว้ในกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการเกี่ยวกับทะเบียนชื่อบุคคล
- ต้องมีความหมายหรือคำแปลที่กำหนดในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือพจนานุกรมฉบับอื่น
- ใช้ตัวสะกดตัวการันต์ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
- ไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี และความสงบเรียบร้อยของสังคม
- ไม่มีเจตนาทุจริต
ขั้นตอน/วิธีการ
- ผู้มีสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลหรือขอตั้งชื่อสกุลใหม่ ให้ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
- ตรวจสอบคำขอกับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ตรวจสอบชื่อสกุล ที่ขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลหรือขอตั้งชื่อสกุลใหม่ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนชื่อสกุล (ช.2/1)
- ออกหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2)
- เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 100 บาท
- สำหรับกรณีผู้ขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลใหม่ เคยมีการจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลไว้ ให้ดำเนินการดังนี้
- ให้นายทะเบียนท้องที่ แจ้งผู้ยื่นคำขอให้แจ้งผู้ที่ใช้ชื่อสกุลหรือร่วมใช้ชื่อสกุลทั้งหมดให้เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิม ตามหลักฐานการเปลี่ยนชื่อสกุลที่มีการแก้ไขไว้ หรือร่วมใช้ชื่อสกุลที่เคยมีการจดทะเบียนไว้ จากนั้นจึงให้ยื่นคำขอจำหน่ายชื่อสกุลดังกล่าว
- แต่หากมีผู้ใช้ชื่อสกุลหรือร่วมใช้ชื่อสกุลประสงค์จะใช้ชื่อสกุลนั้นต่อไป ก็ให้ยื่นคำขอ จำหน่ายสิทธิการเป็นเจ้าของชื่อสกุล
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้อง ให้ดำเนินการตามข้อ 3 และเรียกหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2) ฉบับเดิมคืน หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
- สำหรับกรณีผู้ขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลใหม่ เคยมีการร่วมชื่อสกุลไว้ ให้ดำเนินการดังนี้
- ให้นายทะเบียนท้องที่ แจ้งผู้ยื่นคำขอให้แจ้งผู้ที่ใช้ชื่อสกุลตามทั้งหมดให้เปลี่ยยกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิม ตามหลักฐานการเปลี่ยนชื่อสกุลที่มีการแก้ไขไว้ จากนั้นจึงให้ยื่นคำขอจำหน่ายการร่วมใช้ชื่อสกุล
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้อง ให้ดำเนินการตามข้อ 3 และเรียกหนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4) คืน หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2) ฉบับเดิม หรือหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหาย กรณีผู้ยื่นคำขอเคยจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลไว้
- หนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4) หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความ เอกสารสูญหายแทน กรณีผู้ยื่นคำขอเคยร่วมใช้ชื่อสกุลไว้
**************************************
การอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล กรณี เจ้าของชื่อสกุลมีชีวิต (ช.6)
หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล กรณีเจ้าของชื่อสกุลมีชีวิต
- ผู้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุล จะอนุญาตให้ผู้มีสัญชาติไทยผู้ใดร่วมใช้ชื่อสกุลของตนก็ได้
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้เจ้าของชื่อสกุล ที่ได้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุลหรือตั้งชื่อสกุลใหม่ไว้แล้ว ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 พร้อมหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุลตามแบบ ช.2 ของตน ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขอและหลักฐานตามข้อ 1 แล้วให้ดำเนินการ ดังนี้
- ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
- ตรวจสอบคำขอของผู้ยื่นคำขอและผู้ขอร่วมใช้ชื่อสกุล กับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ตรวจสอบหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุลตามแบบ ช.2
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนอนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.6/1)
- ออกหนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.6) ให้แก่เจ้าของชื่อสกุล เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ที่จะขอร่วมใช้ชื่อสกุล
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2)
**************************************
การอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล
กรณี เจ้าของชื่อสกุลตายหรือศาลมีคำสั่งถึงที่สุดว่าเป็นผู้สาบสูญ (ช.7 และ ช.6)
หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล กรณีเจ้าของชื่อสกุลตายหรือศาลมีคำสั่งถึงที่สุดว่าเป็นผู้สาบสูญ
- ผู้สืบสันดานที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุล ในลำดับที่ใกล้ชิดที่สุด ซึ่งยังมีชีวิตอยู่และใช้ชื่อสกุลนั้น จะอนุญาตให้ผู้มีสัญชาติไทยผู้ใดร่วมใช้ชื่อสกุลของตนก็ได้
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้ผู้สืบสันดานที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้จดทะเบียนตั้งชื่อสกุล ในลำดับที่ใกล้ชิดที่สุด ซึ่งยังมีชีวิตอยู่และใช้ชื่อสกุลนั้น ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน พร้อมด้วยหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุลตามแบบ ช.2 ของเจ้าของชื่อสกุล และหลักฐานทางราชการที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุลได้ เช่น ทะเบียนสมรส (ของบิดามารดา) ทะเบียนรับรองบุตร หรือคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นบุตร
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนรับรองเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.7/1)
- ออกหนังสือรับรองเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.7) ให้แก่ผู้ยื่นคำขอ
- ให้ผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 พร้อมหนังสือรับรองเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.7) ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขอและหลักฐานตามข้อ 3 แล้วเห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
- ตรวจสอบคำขอของผู้ยื่นคำขอและผู้ขอร่วมใช้ชื่อสกุล กับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนอนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.6/1)
- ออกหนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.6) ให้แก่ผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ที่จะขอร่วมใช้ชื่อสกุล
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- การขอหนังสือรับรองเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.7)
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2) ของเจ้าของชื่อสกุล
- หลักฐานทางราชการที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุลได้ เช่น ทะเบียนสมรส (ของบิดามารดา) ทะเบียนรับรองบุตร หรือคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นบุตร
- การขอหนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.6)
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หนังสือรับรองเป็นผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.7)
**************************************
การขอร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4)
หลักเกณฑ์การขอร่วมใช้ชื่อสกุล
- ผู้ขอร่วมใช้ชื่อสกุลที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.6) จากเจ้าของชื่อสกุล กรณีเจ้าของชื่อสกุลมีชีวิต หรือจากผู้มีสิทธิอนุญาตให้ผู้อื่นร่วมใช้ชื่อสกุล กรณีเจ้าของชื่อสกุลตายหรือศาลมีคำสั่งถึงที่สุดว่าเป็นผู้สาบสูญ
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้ผู้ขอร่วมใช้ชื่อสกุล ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน พร้อมหนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุลตามแบบ ช.6
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขอและหลักฐานตามข้อ 1 แล้วให้ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
- ตรวจสอบคำขอ กับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ตรวจสอบหนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุลตามแบบ ช.6
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4/1)
- ออกหนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4)
- เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 100 บาท
- สำหรับกรณีผู้ขอร่วมใช้ชื่อสกุล เคยมีการร่วมชื่อสกุลไว้ ให้ดำเนินการดังนี้
- ให้นายทะเบียนท้องที่ แจ้งผู้ยื่นคำขอให้แจ้งผู้ที่ใช้ชื่อสกุลตามทั้งหมดให้เปลี่ยนกลับไปใช้ ชื่อสกุลเดิม ตามหลักฐานการเปลี่ยนชื่อสกุลที่มีการแก้ไขไว้ จากนั้นจึงให้ยื่นคำขอจำหน่ายการร่วมใช้ชื่อสกุล
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้อง ให้ดำเนินการตามข้อ 3 และเรียกหนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4) ฉบับเดิมคืน หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หนังสืออนุญาตให้ร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.6)
- หนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4) ฉบับเดิม หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความ เอกสารสูญหายแทน กรณีผู้ยื่นคำขอเคยร่วมใช้ชื่อสกุลไว้
**************************************
การเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) กรณี การสมรส และกรณี กลับมาใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
หลักเกณฑ์การเปลี่ยนชื่อสกุลกรณีการสมรส และกรณีกลับมาใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
- คู่สมรส มีสิทธิใช้ชื่อสกุลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่ตกลงกัน หรือต่างฝ่ายต่างใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
- การตกลงตามข้อ 1 จะกระทำเมื่อมีการสมรสหรือในระหว่างสมรสก็ได้ และจะตกลงเปลี่ยนแปลงในภายหลังก็ได้
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้คู่สมรสที่ประสงค์จะใช้ชื่อสกุลของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง หรือคู่สมรสฝ่ายที่จะกลับมาใช้ชื่อสกุลเดิมของตน ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
- เรียกตรวจหลักฐานการสมรส
- เรียกบันทึกข้อตกลงตามเงื่อนไขการสมรส กรณีใช้ชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่ง หรือบันทึกเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในการใช้ชื่อสกุล กรณีกลับมาใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
- ตรวจสอบคำขอ กับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร และฐานข้อมูลทะเบียนครอบครัว
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5/1)
- ออกหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5)
- กรณีกลับมาใช้ชื่อสกุลเดิมของตน เนื่องจากเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในการใช้ชื่อสกุลภายหลังการสมรส ให้เรียก ช.5 ฉบับเดิมคืน หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
- การเปลี่ยนชื่อสกุลครั้งแรกหลังจากการจดทะเบียนสมรส ไม่เสียค่าธรรมเนียม การเปลี่ยน ครั้งต่อ ๆ ไปเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 50 บาท
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการสมรส
- บันทึกข้อตกลงตามเงื่อนไขการสมรส กรณีใช้ชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่ง หรือบันทึกเปลี่ยงแปลงข้อตกลงในการใช้ชื่อสกุล กรณีกลับมาใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) ฉบับเดิม หากสูญหายให้ใช้หลักฐาน การแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
**************************************
การเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) กรณี การสิ้นสุดการสมรส ด้วยการหย่า หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอนการสมรส
หลักเกณฑ์การเปลี่ยนชื่อสกุลกรณีการสิ้นสุดการสมรส ด้วยการหย่า หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอนการสมรส
- เมื่อการสมรสสิ้นสุดลงด้วยการหย่า หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอนการสมรส ให้ฝ่ายซึ่งใช้ชื่อสกุล ของอีกฝ่ายหนึ่งกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้คู่สมรสซึ่งใช้ชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่ง ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนขอผู้ยื่นคำขอ
- เรียกตรวจหลักฐานการสิ้นสุดการสมรส เช่น ใบสำคัญการหย่า หรือคำพิพากษาถึงที่สุดของศาล
- ตรวจสอบคำขอ กับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร และฐานข้อมูลทะเบียนครอบครัว
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5/1)
- ออกหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5)
- เรียก ช.5 ฉบับเดิมคืน หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
- ไม่เสียค่าธรรมเนียม
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการสิ้นสุดการสมรส เช่น ใบสำคัญการหย่า หรือคำพิพากษาถึงที่สุดของศาล
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) ฉบับเดิม หากสูญหายให้ใช้หลักฐาน การแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
**************************************
การเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) กรณี การสิ้นสุดการสมรส ด้วยความตาย
หลักเกณฑ์การเปลี่ยนชื่อสกุลกรณีการสิ้นสุดการสมรส ด้วยความตาย
- เมื่อการสมรสสิ้นสุดลงด้วยความตาย ให้ฝ่ายซึ่งยังมีชีวิตอยู่และใช้ชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่ง มีสิทธิใช้ชื่อสกุลนั้นได้ต่อไป แต่เมื่อจะสมรสใหม่ให้กลับไปใช้ชื่อสกุลเดิมของตน
ขั้นตอน/วิธีการ
- เมื่อคู่สมรสฝ่ายซึ่งยังมีชีวิตอยู่และใช้ชื่อสกุลของอีกฝ่ายหนึ่ง จะสมรสใหม่ ให้ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 พร้อมหลักฐานการตายของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนขอผู้ยื่นคำขอ
- ตรวจสอบหลักฐานการตายของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง
- ตรวจสอบคำขอ กับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร และฐานข้อมูลทะเบียนครอบครัว
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5/1)
- ออกหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5)
- เรียก ช.5 ฉบับเดิมคืน หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
- ไม่เสียค่าธรรมเนียม
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการตายของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) ฉบับเดิม หากสูญหายให้ใช้หลักฐาน การแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
**************************************
การเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5)
กรณี การรับรองบุตร การรับบุตรบุญธรรม การเลิกรับบุตรบุญธรรม การเปลี่ยนชื่อสกุลตามบิดา และการเปลี่ยนชื่อสกุลตามมารดา
หลักเกณฑ์การเปลี่ยนชื่อสกุลกรณี การรับรองบุตร การรับบุตรบุญธรรม การเลิกรับบุตรบุญธรรม การเปลี่ยนชื่อสกุลตามบิดา และการเปลี่ยนชื่อสกุลตามมารดา
- ผู้มีสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะเปลี่ยนชื่อสกุลด้วยเหตุการรับรองบุตร การรับบุตรบุญธรรม การเลิกรับ-บุตรบุญธรรม การเปลี่ยนชื่อสกุลตามบิดา หรือการเปลี่ยนชื่อสกุลตามมารดา
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้ผู้ที่ประสงค์จะเปลี่ยนชื่อสกุล ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชนขอผู้ยื่นคำขอ
- เรียกตรวจหลักฐานการขอเปลี่ยนชื่อสกุล เช่น หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2) หนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4) หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) สำเนาทะเบียนรับรองบุตร (คร.11) สำเนาทะเบียนรับบุตรบุญธรรม (คร.14) สำเนาทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม (คร.17) หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี
- ตรวจสอบคำขอ กับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร และฐานข้อมูลทะเบียนครอบครัว
- หากมีหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) ฉบับเดิมให้เรียกคืน หากสูญหายให้เรียกหลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5/1)
- ออกหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5)
- เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 100 บาท
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการขอเปลี่ยนชื่อสกุล เช่น หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2) หนังสือสำคัญแสดงการร่วมใช้ชื่อสกุล (ช.4) หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) สำเนาทะเบียนรับรองบุตร (คร.11) สำเนาทะเบียนรับบุตรบุญธรรม (คร.14) สำเนาทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม (คร.17) หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.5) ฉบับเดิม (ถ้ามี) หากสูญหายให้ใช้หลักฐานการแจ้งความเอกสารสูญหายแทน
**************************************
การขอหนังสือรับรองการขอเปลี่ยนชื่อตัวของคนต่างด้าว (ช.8)
หลักเกณฑ์การขอหนังสือรับรองการขอเปลี่ยนชื่อตัวของคนต่างด้าว
- คนต่างด้าว ที่ประสงค์จะขอหลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว เพื่อประกอบการขอแปลงสัญชาติหรือขอกลับคืนสัญชาติไทย
- ชื่อตัวที่ขอเปลี่ยนต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินี หรือราชทินนาม
- ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- ต้องเป็นคำหรือพยางค์เดียวกัน จะเว้นวรรคไม่ได้
- ห้ามมิให้ระบุชื่อตัว ร่วมกับหรือประกอบกับคำเชื่อมอักษร สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายใด ๆ ที่มิได้กำหนดไว้ในกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการเกี่ยวกับทะเบียนชื่อบุคคล
- ต้องมีความหมายหรือคำแปลที่กำหนดในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือ พจนานุกรมฉบับอื่น
- ใช้ตัวสะกดตัวการันต์ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
- ไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี และความสงบเรียบร้อยของสังคม
- ไม่มีเจตนาทุจริต
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้คนต่างด้าวที่ประสงค์จะขอหลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในหลักฐานตามที่ทางราชการกำหนด
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกตรวจใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้
- ตรวจสอบหลักฐานคำขอแปลงสัญชาติ หรือขอกลับคืนสััญชาติไทยและเหตุผล
- ตรวจสอบคำขอกับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ตรวจสอบชื่อตัวที่ขอเปลี่ยน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งในคำขอโดยมีเงื่อนไขว่า อนุญาตต่อเมื่อได้รับการแปลงสัญชาติหรือกลับคืนสัญชาติไทย
- บันทึกในทะเบียนรับรองการขอเปลี่ยนชื่อตัวของคนต่างด้าว (ช.8/1)
- ออกหนังสือรับรองการขอเปลี่ยนชื่อตัวของคนต่างด้าว (ช.8)
- เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 50 บาท
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- การขอหนังสือรับรองการขอเปลี่ยนชื่อตัวของคนต่างด้าว (ช.8)
- ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้
- คำขอแปลงสัญชาติ หรือขอกลับคืนสัญชาติไทย
- การขอเปลี่ยนชื่อตัว (ช.3)
- หลักฐานการได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติหรือกลับคืนสัญชาติไทย
**************************************
การขอหนังสือรับรองการขอจดทะเบียนชื่อสกุลของคนต่างด้าว (ช.9)
หลักเกณฑ์การขอหนังสือรับรองการขอจดทะเบียนชื่อสกุลของคนต่างด้าว
- คนต่างด้าว ที่ประสงค์จะขอหลักฐานการขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุล เพื่อประกอบการขอแปลงสัญชาติ หรือขอกลับคืนสัญชาติไทย
- ชื่อสกุลที่ขอจดทะเบียนต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย หรือพระนามของพระราชินี
- ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่ ราชทินนามของตน ของผู้บุพการี หรือของผู้สืบสันดาน
- ไม่ซ้ำกับชื่อสกุลที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ หรือชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว
- ไม่ซ้ำกับชื่อสกุลในฐานข้อมูลทะเบียนชื่อบุคคล และฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
- มีพยัญชนะไม่เกินสิบพยัญชนะ เว้นแต่ กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล
- ไม่ต้องห้ามตามประกาศ ดังนี้
- ประกาศห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานนามสกุลใช้ “ณ” นำหน้านามสกุล ลงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2458
- ประกาศเพิ่มเครื่องหมายนามสกุลสำหรับราชตระกูล ลงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2458
- ประกาศแก้เครื่องหมายนามสกุลสำหรับราชสกุล ลงวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2467
- ประกาศห้ามมิให้เอานามพระมหานคร และไม่ให้เอาศัพท์ที่ใช้เป็นพระบรมนามาภิไธยมาใช้เป็นนามสกุล ลงวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2458
- ประกาศห้ามไม่ให้เอานามพระมหานคร มาประกอบกับศัพท์อื่นใช้เป็นนามสกุล ลงวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2459
- ต้องเป็นคำหรือพยางค์เดียวกัน จะเว้นวรรคไม่ได้
- ห้ามมิให้ระบุชื่อสกุล ร่วมกับหรือประกอบกับคำเชื่อมอักษร สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายใด ๆ ที่มิได้กำหนดไว้ในกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการเกี่ยวกับทะเบียนชื่อบุคคล
- ต้องมีความหมายหรือคำแปลที่กำหนดในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือพจนานุกรมฉบับอื่น
- ใช้ตัวสะกดตัวการันต์ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
- ไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี และความสงบเรียบร้อยของสังคม
- ไม่มีเจตนาทุจริต
ขั้นตอน/วิธีการ
- ให้คนต่างด้าวที่ประสงค์จะขอหลกฐานการขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุล ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ที่ตนมีชื่ออยู่ในหลักฐานตามที่ทางราชการกำหนด
- ให้นายทะเบียนท้องที่ดำเนินการ
- เรียกตรวจใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้
- ตรวจสอบหลกฐานคำขอแปลงสัญชาติ หรือขอกลับคืนสัญชาติไทยและเหตุผล
- ตรวจสอบคำขอกับรายการทะเบียนบ้านในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
- ตรวจสอบชื่อสกุล ที่ขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุล ต้องเป็นไปตามหลกเณฑ์ที่กำหนด
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ
- สั่งในคำขอโดยมีเงื่อนไขว่า อนุญาตต่อเมื่อได้รับการแปลงสัญชาติหรือกลับคืนสัญชาติไทย
- บันทึกในทะเบียนรับรองการขอจดทะเบียนชื่อสกุลของคนต่างด้าว (ช.9/1)
- ออกหนังสือรับรองการขอจดทะเบียนชื่อสกุลของคนต่างด้าว (ช.9)
- เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 100 บาท
- เมื่อคนต่างด้าวนั้นได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติหรือกลับคืนสัญชาติไทยแล้ว ให้ยื่นคำขอตามแบบ ช.1 ต่อนายทะเบียนท้องที่อีกครั้งหนึ่ง พร้อมหลกฐานการได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติหรือกลับคืนสััญชาติไทย
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่เห็นว่าถูกต้องให้ดำเนินการ
- สั่งอนุญาตในคำขอ
- บันทึกในทะเบียนชื่อสกุล (ช.2/1)
- ออกหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนชื่อสกุล (ช.2)
- เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 100 บาท
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
- การขอหนังสือรับรองการขอจดทะเบียนชื่อสกุลของคนต่างด้าว (ช.9)
- ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้
- คำขอแปลงสัญชาติ หรือขอกลับคืนสัญชาติไทย
- การขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุล (ช.2)
- หลักฐานการได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติหรือกลับคืนสัญชาติไทย
**************************************
ที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น