วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

แนวข้อสอบภาษาไทย

 ตะลุยคลังข้อสอบ หลักภาษาไทย ชุดที่ 1

ข้อ 1. ข้อใดไม่มีเสียงสระประสม
          1. ศาสนาสอนสั่งให้  ประพฤติดี
          2. หนี่งยุติธรรมไป่มี  เลือกผู้
          3. ประพฤติเพื่อประโยชน์ศรี สวัสดิ์ทั่ว กันแล
          4. สามสิ่งควรรอบรู้ เคารพเรื้องเจริญคุณ
เฉลยข้อ 1. เหตุผล 
สระประสม คือ เอียะ เอีย เอีอะ เอือ อัวะ อัว
          ข้อ 1. ไม่มีเสียงสระประสม
          ข้อ 2. คำที่มีเสียงสระประสม คือ เลือก
          ข้อ 3. คำที่มีเสียงสระประสม คือ เพื่อ ทั่ว
          ข้อ 4. คำที่มีเสียงสระประสม คือ ควร เรื้อง
************************************************************
2. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะสะกดมากที่สุด (ไม่นับเสียงซ้ำ)
    ก. จงรู้จักรักษาคุณค่าหญิง
    ข. อย่าทอดทิ้งทางงามทุกความหมาย
    ค. แม้นราคีมีหมองต้องเสียดาย
    ง. จะอับอายออกนามคนหยามเรา
          1. ข้อ ก. 
          2. ข้อ ข. 
          3. ข้อ ค. 
          4. ข้อ ง.
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1. มีเสียงพยัญชนะสะกด 3 เสียง คือ ง ก น
          ข้อ 2. มีเสียงพยัญชนะสะกด 5 เสียง คือ ด ง ม ก ย
          ข้อ 3. มีเสียงพยัญชนะสะกด 3 เสียง คือ ง ย น
          ข้อ 4. มีเสียงพยัญชนะสะกด 6 เสียง คือ ป ย ก ม น ว
***********************************************
3. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ไม่ครบทุกเสียง
          1. เวลานี้เธออยู่ที่ไหนหนอ
          2. ยังจำได้สายลมแห่งความรัก
          3. น้ำค้างหยดแตะแต้มบนแก้มหญ้า
          4. ข้าเก็บดอกหญ้ามาทัดหู
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1. เวลานี้เธออยู่ที่ไหนหนอ มีเสียงวรรณยุกต์เรียงตามลำดับดังนี้
                    สามัญ สามัญ ตรี สามัญ เอก โท จัตวา จัตวา (มีครบ 5 เสียง)
          ข้อ 2. ยังจำได้สายลมแห่งความรัก มีเสียงวรรณยุกต์เรียงตามลำดับดังนี้
                    สามัญ สามัญ โท จัตวา สามัญ เอก สามัญ ตรี (มีครบ 5 เสียง)
          ข้อ 3. น้ำค้างหยดแตะแต้มบนแก้มหญ้า มีเสียงวรรณยุกต์เรียงตามลำดับดังนี้
                    ตรี ตรี เอก เอก โท สามัญ โท โท (ไม่มีเสียงจัตวา)
          ข้อ 4. ข้าเก็บดอกหญ้ามาทัดหู มีเสียงวรรณยุกต์เรียงตามลำดับดังนี้
                    โท เอก เอก โท สามัญ ตรี จัตวา (มีครบ 5 เสียง)
*****************************************
4. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบ 5 เสียง
          1. บรรจงปลูกแต่ต้นยังน้อยนิด
          2. จะหอมกลิ่นลั่นทมที่ถูกใจ
          3. ต้องเตรียมใจรอดอกเจ้าร่วงมา
          4. ผ่านร้อนหนาวกี่คราวครั้งยังยืนต้น
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1. มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ สามัญ สามัญ เอก เอก โท สามัญ ตรี ตรี
          ข้อ 2. มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ เอก จัตวา เอก โท สามัญ โท เอก สามัญ
          ข้อ 3. มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ โท สามัญ สามัญ สามัญ เอก โท โท สามัญ
          ข้อ 4. มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ เอก ตรี จัตวา เอก สามัญ ตรี สามัญ สามัญ โท
*********************************************
5. ข้อใดประกอบด้วยคำหรือพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะต้นเดี่ยวทั้งหมด
          1. ผูกงูด้วยมนตรา
          2. วิทยาอาคมหมาย
          3. ผูกสารบ่เคลื่อนคลาย
          4. ด้วยเชือกบาศกระสันพัน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ภาษาไทยมีเสียงพยัญชนะต้นที่เป็นเสียงพยัญชนะเดี่ยว 21 เสียง
          ข้อ 1 มีพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะต้นสองเสียง คือ ตรา
          ข้อ 2 มีพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะเดี่ยวทั้งหมด คือ ว ท ย อ ค ม
          ข้อ 3 มีพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะต้นสองเสียง คือ เคลื่อนคลาย
          ข้อ 4 มีพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะต้นสองเสียง คือ กระ
*******************************************
6. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะสะกดน้อยที่สุด (นับทุกเสียง)
          1. ฉันชอบนั่งดูดาวพราวรังสี
          2. อันเป็นที่ชื่นชมอารมณ์ฉัน
          3. รัศมีสีแสงแข่งตะวัน
          4. ในสวรรค์สงสัยว่าไม่มี
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 พยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะสะกด คือ ฉัน ชอบ นั่ง ดาว พราว รัง(สี)
          ข้อ 2 พยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะสะกด คือ อัน เป็น ชื่น ชม (อา)รมณ์ ฉัน
          ข้อ 3 พยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะสะกด คือ รัศ(มี) แสง แข่ง (ตะ)วัน
          ข้อ 4 พยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะสะกด คือ
                   ใน(เสียง ย สะกด) (ส)วรรค์ สง สัย ไม่(เสียง ย สะกด)
***************************************
7. ข้อใดไม่มีสระประสม
          1. พิเคราะห์น้ำสมคำบุราณกล่าว
          2. หอมควันธูปเทียนตรลบอยู่อบอาย
          3. ตาข่ายแก้วปักกรองเป็นกรวยห้อย
          4. บ้างกอบปรายเบี้ยโปรยอยู่โกรยกราว
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          สระประสม คือ เอีย เอือ อัว
          ข้อ 1 มีเสียงสระ คือ อิ เอาะ อะ โอะ อุ อา
          ข้อ 2 คำที่มีสระประสม คือ เทียน (สระเอีย)
          ข้อ 3 คำที่มีสระประสม คือ กรวย (สระอัว)
          ข้อ 4 คำที่มีสระประสม คือ เบี้ย (สระเอีย)
********************************************
8. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบทุกเสียง
          1. ประเทืองฟ้าบ่าฝันนิรันดร
          2. นิรมิตวิจิตรกรรมร่ำเฉลย
          3. ระยับร้อยพลอยเพชรเกล็ดมณี
          4. เปล่งลำแสงสีทองปองเป้าหมาย
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ เอก สามัญ ตรี เอก จัตวา ตรี สามัญ สามัญ
          ข้อ 2 มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ ตรี ตรี ตรี ตรี เอก สามัญ โท เอก จัตวา
          ข้อ 3 มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ ตรี ตรี ตรี สามัญ ตรี เอก ตรี สามัญ
          ข้อ 4 มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ เอก สามัญ จัตวา จัตวา สามัญ สามัญ โท จัตวา
*******************************************
9. ข้อใดประกอบด้วยพยางค์คำตายทั้งหมด
          1. กฎเกณฑ์ 
          2. ผลลัพธ์
          3. พิษสง 
          4. อุกฤษฎ์
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          คำตาย หมายถึง พยางค์ที่มีสระเสียงสั้นในแม่ ก กา
                             หรือ พยางค์ที่มีพยัญชนะสะกดในมาตรา กก กด กบ
          ข้อ 1 มีพยางค์คำตาย 1 พยางค์ คือ กฎ
          ข้อ 2 มีพยางค์คำตาย 1 พยางค์ คือ ลัพธ์
          ข้อ 3 มีพยางค์คำตาย 1 พยางค์ คือ พิษ
          ข้อ 4 มีพยางค์คำตาย 2 พยางค์ คือ อุกฤษฎ์
**********************************************
10. ข้อใดมีพยางค์คำเป็นน้อยที่สุด
          1. ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม          เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
          2. โอชาจะหาไหน          ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
          3. เทโพพื้นเนื้อท้อง          เป็นมันย่องล่องลอยมัน
          4. เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ          แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          คำเป็น หมายถึง พยางค์ที่มีเสียงสระยาวในแม่ ก กา
                            หรือ พยางค์ที่มีพยัญชนะสะกดในมาตรา กง กน กม เกย เกอว
          ข้อ 1 มีพยางค์คำเป็น 7 พยางค์
                   คือ หล่อน ต้ม เจือ น้ำ ส้ม โรย ไทย
          ข้อ 2 มีพยางค์คำเป็น 8 พยางค์
                   คือ โอ ชา หา ไหน ไม่ มี มือ นาง
          ข้อ 3 มีพยางค์คำเป็น 11 พยางค์
                   คือ เท โพ พื้น เนื้อ ท้อง เป็น มัน ย่อง ล่อง ลอย มัน
          ข้อ 4 มีพยางค์คำเป็น 10 พยางค์
                   คือ เรือ ม้า หน้า มุ่ง น้ำ แล่น เฉื่อย ฉ่ำ ลำ หง
**********************************************
11. คำในข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนกันทั้งสองคำ
          1. ตั้งร้าน
          2. ข้างขึ้น
          3. คล่องแคล่ว
          4. ทรุดโทรม
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 ตั้ง ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว สระเสียงสั้น
                         มีตัวสะกดวรรณยกต์รูปโท เสียงตรี
                   ร้าน ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว สระเสียงยาว
                           มีตัวสะกดวรรณยุกต์รูปโท เสียงตรี
          ข้อ 2 ข้าง ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว สระเสียงยาว
                           มีตัวสะกดวรรณยกต์รูปโท เสียงโท
                   ขึ้น ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว สระเสียงสั้น
                         มีตัวสะกดวรรณยุกต์รูปโท เสียงโท
          ข้อ 3 คล่อง ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้น 2 เสียง สระเสียงยาว
                              มีตัวสะกดวรรณยกต์รูปเอก เสียงโท
                   แคล่ว ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้น 2 เสียง สระเสียงยาว
                             มีตัวสะกดวรรณยุกต์รูปเอก เสียงโท
          ข้อ 4 ทรุด ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว สระเสียงสั้น
                           มีตัวสะกด ไม่มีรูปวรรณยกต์ เสียงตรี
                   โทรม ประกอบด้วยเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว สระเสียงยาว
                             มีตัวสะกด ไม่มีรูปวรรณยุกต์ เสียงสามัญ
************************************************
ใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 12 -14
"ทั้งนอกเมืองในเมืองเนืองมา    พร้อมกันยังหน้าศาลากลาง"
12. คำประพันธ์ข้างต้นมีเสียงสระเดี่ยวกี่เสียง (ไม่นับเสียงซ้ำ)
          1. 3 เสียง
          2. 4 เสียง
          3. 5 เสียง
          4. 6 เสียง
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          คำประพันธ์ที่ยกมามีเสียงสระเดี่ยว 3 เสียง คือ อะ อา ออ
          คำที่มีเสียงสระ อะ คือ ทั้ง ใน กัน ยัง
          คำที่มีเสียงสระอา คือ มา หน้า ศาลากลาง
          คำที่มีเสียงสระออ คือ นอก พร้อม
          ส่วนเสียงสระเอือ เป็นเสียงสระประสม
************************************************
13. คำประพันธ์ข้างต้นมีเสียงพยัญชนะท้ายกี่เสียง (ไม่นับเสียงซ้ำ)
          1. 4 เสียง
          2. 5 เสียง
          3. 6 เสียง
          4. 7 เสียง
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำประพันธ์ที่ยกมามีเสียงพยัญชนะท้าย 5 เสียง คือ
          เสียง /ก/ คือ นอก
          เสียง /ง/ คือ ทั้ง เมือง ยัง เนือง กลาง
          เสียง /น/ คือ กัน
          เสียง /ม/ คือ พร้อม
          เสียง /ย/ คือ ใน
************************************************
14. คำประพันธ์ข้างต้นมีเสียงวรรณยุกต์ใดบ้าง (ไม่นับเสียงซ้ำ)
          1. สามัญ เอก โท ตรี จัตวา
          2. สามัญ โท ตรี จัตวา
          3. เอก โท ตรี จัตวา
          4. สามัญ เอก ตรี จัตวา
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำประพันธ์ที่ยกมามีเสียงวรรณยุกต์ ดังนี้
          เสียงสามัญ คือ เมือง ใน เนือง มา กัน ยัง ลา กลาง
          เสียงโท คือ นอก หน้า
          เสียงตรี คือ ทั้ง พร้อม
          เสียงจัตวา คือ ศา
******************************************
15. ข้อใดมีโครงสร้างพยางค์ต่างกับข้ออื่น
          1. ขึ้น
          2. คับ
          3. ซึ้ง
          4. นก
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ขึ้น ประกอบด้วยพยัญชนะต้น ตัวสะกด เสียงสระ เสียงวรรณยุกต์โท
          คับ, ซึ้ง, นก ประกอบด้วยพยัญชนะต้น ตัวสะกด เสียงสระ เสียงวรรณยุกต์ตรี
******************************************
16. ข้อใดมีจำนวนพยางค์ที่ประกอบด้วยสระลดรูปมากที่สุด
          1. กวนขนม ทุ่มทุน ทางขนาน
          2. ปลดปลง ปกป้อง ครบครัน
          3. ตกใจ สิ้นเคราะห์ กราบกราน
          4. เกรี้ยวกราด กลบเกลื่อน เกรงกริ่ง
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 มีจำนวนพยางค์ที่ประกอบด้วยสระลดรูป 4 พยางค์
                   คือ กวน ขนม (2 พยางค์) ข (นาน)
          ข้อ 2 มีจำนวนพยางค์ที่ประกอบด้วยสระลดรูป 4 พยางค์
                   คือ ปลด ปลง ปก ครบ
          ข้อ 3 มีจำนวนพยางค์ที่ประกอบด้วยสระลดรูป 1 พยางค์
                   คือ ตก
          ข้อ 4 มีจำนวนพยางค์ที่ประกอบด้วยสระลดรูป 1 พยางค์
                   คือ กลบ
          โจทย์ถามจำนวนพยางค์มากที่สุด
          จึงควรตอบข้อ 2 เพราะข้อ 1 มีพยางค์ซ้ำกัน
*******************************************
17. ข้อใดมีคำตายมากที่สุด
          1. นักธุรกิจต่างแลกนามบัตรกัน
          2. ใฝ่ใจศึกษาเพื่ออนาคตอันรุ่งโรจน์
          3. แมวน้อยนอนบิดขี้เกียจอย่างเป็นสุข
          4. หลบหลีกให้ห่างจากคนพาลสันดานหยาบ
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          คำตาย ได้แก่ พยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา
                         และ พยางค์ที่มีตัวสะกดในแม่กก กด กบ
          ข้อ 1 มีคำตาย 6 พยางค์ คือ นัก ธุรกิจ (3 พยางค์) แลก บัตร
          ข้อ 2 มีคำตาย 4 พยางค์ คือ ศึก อ(นา) คต โรจน์
          ข้อ 3 มีคำตาย 3 พยางค์ คือ บิด เกียจ สุข
          ข้อ 4 มีคำตาย 4 พยางค์ คือ หลบ หลีก จาก หยาบ
*******************************************
18. ข้อใดเป็นคำยืมทุกคำ
          1. จงกรม จงอาง จรณะ
          2. ดรุณ ตรุษ ตฤณ
          3. ทำเล ทำลาย ทำเนา
          4. ไต่คู้ ไต้ฝุ่น ไตรเพท
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 จงกรม หมายถึง อาการที่เดินไปมาในที่ที่กำหนด
                                             อย่างพระเจริญกรรมฐานเดิน
                                             เป็นคำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต
                   จงอาง หมายถึง งูพิษชนิดหนึ่ง
                                             พจนานุกรมไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นคำยืม
                   จรณะ หมายถึง ความประพฤติ
                                            เป็นคำยืมจากภาษาบาลี
          ข้อ 2 ดรุณ หมายถึง หนุ่ม อ่อน วัยรุ่น
                                           เป็นคำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต
                   ตรุษ หมายถึง เทศกาลเนื่องในงานสิ้นปี
                                          ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 4
                                          พจนานุกรมไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นคำยืม
                                          แต่ลักษณะของคำเป็นคำควบกล้ำ
                                          ตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา จึงไม่ใช่คำไทยแท้
                   ตฤณ หมายถึง หญ้า
                                           เป็นคำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต
          ข้อ 3 ทำเล หมายถึง ถิ่นที่
                                           พจนานุกรมไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นคำยืม
                   ทำลาย หมายถึง ทำให้พัง
                                              (แผลงมาจากทลาย ทลายเป็นคำยืมจากภาษาเขมร)
                   ทำเนา หมายถึง ช่างเถิด ตามมี
                                             พจนานุกรมไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นคำยืม
          ข้อ 4 ไต่คู้ หมายถึง เครื่องหมายชนิดหนึ่ง
                                          พจนานุกรมไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นคำยืม
                   ไต้ฝุ่น หมายถึง ชื่อพายุหมุนที่มีกำลังแรงจัด
                                            เป็นคำยืมจากภาษาจีน
                   ไตรเพท หมายถึง ชื่อคัมภีร์ศาสนาพราหมณ์
                                                เป็นคำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต
*****************************************
19. ข้อความต่อไปนี้มีคำยืมภาษาเขมรและภาษาจีนกี่คำ
ห้างสรรพสินค้าที่เพิ่งเปิดใหม่จำหน่ายสินค้ามีคุณภาพสูง เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ เครื่องเรือนพวกตู้ โต๊ะ เก้าอี้ และนาฬิกาหลายยี่ห้อ ฉันอยากไปซื้อเสื้อสักตัวไว้ใส่แทนเสื้อตัวโปรดที่ใช้จนเก่าแล้ว
          1. ภาษาเขมร 3 คำ ภาษาจีน 4 คำ
          2. ภาษาเขมร 2 คำ ภาษาจีน 3 คำ
          3. ภาษาเขมร 2 คำ ภาษาจีน 2 คำ
          4. ภาษาเขมร 1 คำ ภาษาจีน 3 คำ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำที่ยืมมาจากภาษาเขมร คือ จำหน่าย โปรด
          คำที่ยืมมาจากภาษาจีน คือ ห้าง เก้าอี้ ยี่ห้อ
************************************************
20. ข้อใดใช้ "ซึ่ง" ได้ถูกต้อง
          1. นมชนิดพร่องมันเนยไม่เหมาะกับเด็กซึ่งอยู่ในวัยเจริญเติบโต
          2. ผู้ประสงค์จะเข้าอบรมโปรดแจ้งความจำนงล่วงหน้าซึ่งรายละเอียดการฝึกปฏิบัตินั้น จะได้แจ้งให้ทราบภายหลัง
          3. ราคาข้าวของชาวนาไทยตกต่ำทุกปีซึ่งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนต่างก็เคยประสบปัญหานี้มาแล้วทั้งสิ้น
          4. เด็กสมัยนี้มีพัฒนาซึ่งเร็วกว่าสมัยก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้หรือการแสดงออกทางความคิด
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ประโยคนี้เป็นประโยคความซ้อน
          มีประโยคหลัก คือ นมชนิดพร่องมันเนยไม่เหมาะกับเด็ก
          ประโยคย่อย คือ (เด็ก) อยู่ในวัยเจริญเติบโต
          "ซึ่ง" ใช้แทนคำนาม "เด็ก" ที่อยู่ข้างหน้า
******************************************
21. ข้อใดใช้คำเชื่อมได้ถูกต้อง
          1. บริษัทจะจัดฝึกอบรมให้กับพนักงานขายประมาณปลายเดือนนี้
          2. เขาได้รับเชิญให้บรรยายเรื่องเทคนิคการสมัครงานต่อนักศึกษาชั้นปีที่ 4
          3. การสัมมนาครั้งนี้เป็นประโยชน์แก่อาจารย์และนักศึกษาที่เข้าฟังอย่างยิ่ง
          4. ผู้บริหารโรงเรียนจะต้องตระหนักถึงความสัมพันธ์ของหน่วยงานของตนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          กับ ใช้เมื่อแสดงอาการร่วม,
          แก่ ใช้แสดงรับอาการที่กระทำ,
          ต่อ ใช้แสดงการติดต่อ
               ข้อ 1 "กับ" ควรใช้ "แก่"
               ข้อ 2 "ต่อ" ควรใช้ "แก่"
               ข้อ 3 ใช้ "แก่" เหมาะสมแล้ว
               ข้อ 4 "ต่อ" ควรใช้ "กับ"
******************************************
22. ข้อความต่อไปนี้มีคำประสมและคำสมาสกี่คำ (ไม่นับคำซ้ำ)
ในบรรดาเครื่องปรุงรส สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถขาดได้เลยในครัวของเราก็คือ "น้ำปลา" เรารู้จักน้ำปลากันดี แต่คงมีไม่กี่คนนักที่จะทราบว่า น้ำปลาดีมีคุณภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นอย่างไร ส่วนกรรมวิธีในการผลิตก็มีส่วนทำให้รสของน้ำปลาแตกต่างกันด้วย
          1. คำประสม 2 คำ   คำสมาส 4 คำ
          2. คำประสม 3 คำ   คำสมาส 3 คำ
          3. คำประสม 4 คำ   คำสมาส 3 คำ
          4. คำประสม 5 คำ   คำสมาส 2 คำ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อความนี้มีคำประสม คือ เครื่องปรุงรส น้ำปลา การผลิต
          ข้อความนี้มีคำสมาส คือ คุณภาพ โภชนาการ กรรมวิธี
*********************************************
23. ข้อใดเรียงลำดับประเภทของคำดังนี้ : คำประสม, คำซ้อน, คำสมาส
          1. แสวงหา สนใจ สุดกวี
          2. พิษภัย บทบาท บริโภค
          3. จุดหมาย เบิกบาน อรรถคดี
          4. อ้างอิง ตกต่ำ เสรีภาพ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 แสวงหา เป็นคำซ้อน, สนใจ เป็น คำประสม, สุดกวี เป็นคำสมาส
          ข้อ 2 พิษภัย เป็น คำซ้อน, บทบาท เป็น คำประสม, บริโภค เป็น คำสมาส
          ข้อ 3 จุดหมาย เป็น คำประสม, เบิกบาน เป็น คำซ้อน, อรรถคดี เป็น คำสมาส
          ข้อ 4 อ้างอิง เป็น คำซ้อน, ตกต่ำ เป็น คำซ้อน, เสรีภาพ เป็น คำสมาส
**********************************************
24. คำซ้ำคู่ในข้อใดมีความหมายเปลี่ยนไป
          1. เขาอยู่ด้วยกันอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ
          2. เขาเบื่องานจึงทำ ๆ หยุด ๆ
          3. เขากังวลว่าจะตกรถไฟจึงหลับ ๆ ตื่น ๆ
          4. คนไทยส่วนใหญ่มีนิสัยกินทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ลุ่ม หมายถึง ต่ำ ใช้แก่ลักษณะพื้นดินซึ่งรับน้ำที่ไหลท่วมได้
          ดอน หมายถึง ที่สูงซึ่งมีลักษณะตรงข้ามกับที่ลุ่ม
          ลุ่ม ๆ ดอน ๆ หมายถึง ไม่สม่ำเสมอ
***********************************************
25. ข้อความต่อไปนี้มีคำซ้อนจำนวนกี่คำ
มารดาอบรมปริญญามาอย่างดีเลิศ เขามีมารยาทที่ขัดเกลามาเป็นอย่างดี เมื่อมาทำงานเขาจึงไม่ล่วงเกินผู้ใหญ่ ไม่เกี่ยงงอนในการทำงานกับมิตรสหาย
          1. 3 คำ
          2. 4 คำ
          3. 5 คำ
          4. 6 คำ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อความนี้มีคำซ้อน คือ ดีเลิศ ขัดเกลา ล่วงเกิน มิตรสหาย
***********************************************
26. คำในข้อใดเป็นคำประสมทุกคำ
          1. แผงลอย โอดครวญ เสื้อนอน ผักดอง
          2. เรือนแพ เผ็ดร้อน ไขมัน โหยหวน
          3. มืออาชีพ หอบหิ้ว กล่องข้าว ป่าวร้อง
          4. เดินหน้า ข้องใจ ร่างทรง อ่อนโยน
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 โอดครวญ เป็นคำซ้อน คำอื่น ๆ เป็นคำประสม
          ข้อ 2 โหยหวน เป็นคำซ้อน คำอื่น ๆ เป็นคำประสม
          ข้อ 3 หอบหิ้ว ป่าวร้อง เป็นคำซ้อน คำอื่น ๆ เป็นคำประสม
          ข้อ 4 เป็นคำประสมทุกคำ
                   เดินหน้า หมายถึง ทำต่อไป
                   ข้องใจ หมายถึง ติดใจสงสัย
                   ร่างทรง หมายถึง ผู้ที่ใช้ร่างเป็นที่เชิญเจ้าเข้าสิง
                   อ่อนโยน หมายถึง มีกิริยาวาจานิ่มนวล
*****************************************
27. คำว่า "ทิ้ง" ในข้อใดเป็นความหมายนัยตรงทุกคำ
          1. ทิ้งจดหมาย ทิ้งท้าย ทิ้งไพ่
          2. ทิ้งทาน ทิ้งกระจาด เททิ้ง
          3. ผ้าเนื้อทิ้ง ทิ้งทวน ทิ้งธุระ
          4. ทิ้งเพื่อน ทิ้งขว้าง ทิ้งตา
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ทิ้ง หมายถึง ทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ถืออยู่หลุดจากมือด้วยอาการต่าง ๆ
                               เช่น โยนทิ้ง ขว้างทิ้ง เททิ้ง
                               หรือเรียกผ้าเนื้อหนักที่มีลักษณะถ่วงหรือทิ้งตัวลงว่า ผ้าเนื้อทิ้ง
                              โดยปริยายหมายความว่า
                              ปล่อยด้วยกิริยาอาการคล้ายคลึงเช่นนั้น
                              เช่น ทิ้งลูกทิ้งเมีย ทิ้งบ้าน ทิ้งเพื่อน
          ข้อ 1 ทิ้งจดหมาย หมายถึง ส่งจดหมายทางไปรษณีย์
                                       หรืออาจหมายถึง
                                       ทำให้จดหมายหลุดจากมือ (ความหมายนัยตรง)
                   ทิ้งท้าย หมายถึง ปล่อยทีเด็ดตอนลงท้าย
                   ทิ้งไพ่ หมายถึง ปล่อยไพ่ตัวที่ไม่ต้องการให้แก่มือล่าง
                                            หรืออาจหมายถึงทำให้ไพ่หลุดจากมือ
                                            (ความหมายนัยตรง)
          ข้อ 2 ทิ้งทาน หมายถึง ให้ทานด้วยวิธีหว่านหรือโปรยสตางค์
                   ทิ้งกระจาด หมายถึง ประเพณีทางพุทธศาสนาแบบหนึ่งของชาวจีน
                                                    หรือญวน
                                      หรืออาจหมายถึง ทำให้กระจาดหลุดจากมือ
                                                                  (ความหมายนัยตรง)
                   เททิ้ง หมายถึง อาการเท (ความหมายนัยตรง)
          ข้อ 3 ผ้าเนื้อทิ้ง หมายถึง ผ้าเนื้อหนักที่มีลักษณะทิ้งตัวลง
                                                  (ความหมายนัยตรง)
                   ทิ้งทวน หมายถึง ทำจนสุดความสามารถ
                                               หรืออาจหมายถึง ทำให้ทวนหลุดจากมือ
                                                                           (ความหมายนัยตรง)
                   ทิ้งธุระ หมายถึง ปล่อยธุระไว้ไม่ทำ (ความหมายนัยตรง)
          ข้อ 4 ทิ้งเพื่อน หมายถึง ปล่อยเพื่อนไว้ (ความหมายนัยตรง)
                   ทิ้งขว้าง หมายถึง ไม่เอาใจใส่ดูแล พรากหนีไป
                   ทิ้งตา หมายถึง สายตาชำเลืองอย่างพึงพอใจ
****************************************
28. คำในข้อใดทุกคำมีความหมายทั้งความหมายโดยตรงและความหมายเชิงอุปมา
          1. อินทรี ปล่อยแก่ กันเปื้อน เดินสาย
          2. ตีนแมว วาดภาพ ตีปีก ซื้อเสียง
          3. ไข่แดง เสือหิว ม้วนเสื่อ แจกหมอน
          4. จับกบ ลมเย็น ตรายาง ลบเหลี่ยม
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ไข่แดง ความหมายโดยตรง หมายถึง ส่วนของไข่สัตว์มีสีเหลืองหรือแดง
                      ความหมายเชิงอุปมา หมายถึง พรหมจารีของหญิงสาว
          เสือหิว ความหมายโดยตรง หมายถึง เสือที่อยากข้าวอยากน้ำ
                      ความหมายเชิงอุปมา หมายถึง คนที่อยากได้ประโยชน์โดย
                                                                       ไม่เลือกว่าควรหรือไม่ควร
          ม้วนเสื่อ ความหมายโดยตรง หมายถึง การทำอาการหมุนพันเสื่อ
                        ความหมายเชิงอุปมา หมายถึง เสียการพนันจนหมดตัว
                                                                         เลิกกิจการเพราะขาดทุน
          แจกหมอน ความหมายโดยตรง หมายถึง ให้หมอน
                            ความหมายเชิงอุปมา หมายถึง น่านอน น่าเบื่อ
*********************************************
29. เขาเข้าไปในร้านเครื่องหนัง หากระเป๋าถือให้แม่ได้แล้วซื้อกระเป๋าสตางค์แบบที่พ่ออยากได้ หลังจากนั้นไปร้านขายของเล่นได้ตุ๊กตาแบบที่น้องชอบ แวะร้านขายหนังสือ ได้หนังสือแปลให้ตัวเอง
ข้อความข้างต้นมีค่าที่มีความหมายกว้าง ความหมายแคบจำนวนกี่คำ
          1. ความหมายกว้าง 1 คำ   ความหมายแคบ 4 คำ
          2. ความหมายกว้าง 2 คำ   ความหมายแคบ 3 คำ
          3. ความหมายกว้าง 3 คำ   ความหมายแคบ 4 คำ
          4. ความหมายกว้าง 4 คำ   ความหมายแคบ 3 คำ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          คำที่มีความหมายกว้าง คือ เครื่องหนัง ของเล่น หนังสือ
          คำที่มีความหมายแคบ คือ กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ ตุ๊กตา หนังสือแปล
***********************************************
30. คำคู่ใดต้องใช้เป็นคำซ้ำเท่านั้น
          1. งก ๆ เงิ่น ๆ
          2. ชั่ว ๆ ดี ๆ
          3. ข้าง ๆ คู ๆ
          4. หลบ ๆ ซ่อน ๆ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 อาจใช้ว่า งก ๆ เงิ่น ๆ หรือ งกเงิ่น
                   หมายถึง มีอาการประหม่าตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก
          ข้อ 2 อาจใช้ว่า ชั่ว ๆ ดี ๆ หรือ ชั่วดี
                   หมายถึง ร้ายและดี
          ข้อ 3 ถ้าใช้ว่า ข้าง ๆ คู ๆ
                   หมายถึง ออกนอกแนวนอกเรื่องอย่างไม่สมเหตุสมผล
                   ถ้าใช้ว่า ข้างคู หมายถึง ริมร่องน้ำ
          ข้อ 4 อาจใช้ว่า หลบ ๆ ซ่อน ๆ หรือหลบซ่อน หมายถึง แอบในที่ลับตา
************************************************
31. คำซ้อนทุกคำในข้อใดมีโครงสร้างเช่นเดียวกับคำซ้อน "ใหญ่โตโอฬาร"
          1. ร้องรำทำเพลง          ปวดหัวตัวร้อน
          2. แก้วแหวนเงินทอง          ข้าทาสบริวาร
          3. เหล้ายาปลาปิ้ง          แม่น้ำลำคลอง
          4. ภูตผีปิศาจ          เยื่อใยไมตรี
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ใหญ่โตโอฬาร เป็นคำซ้อนที่เกิดจากการนำคำที่มีความเหมือนกันมาซ้อนกัน
                                  และมีเสียงสัมผัสกัน โอฬาร หมายถึง ใหญ่โต
          ข้อ 4 ภูตผีปิศาจ เยื่อใยไมตรี มีลักษณะเช่นเดียวกับใหญ่โตโอฬาร
                   ภูต หมายถึง ผีชนิดหนึ่ง
                   ผี หมายถึง เรียกคนที่ตายไปแล้ว
                   ปิศาจ หมายถึง ผี
                   เยื่อใย หมายถึง ความเกี่ยวพัน
                   ไมตรี หมายถึง ความเป็นเพื่อน
******************************************
32. ดาราเป็นนักข่าวที่รับผิดชอบต่อหน้าที่ เธอจะติดตามไปถึงที่มาของแหล่งข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หวาดหวั่นต่ออันตรายใด ๆ เธอจึงได้รางวัลผู้สื่อข่าวดีเด่น
ข้อความข้างต้นมีจำนวนคำประสมและคำซ้อนตามข้อใด
          1. คำประสม 7 คำ   คำซ้อน 3 คำ
          2. คำประสม 6 คำ   คำซ้อน 4 คำ
          3. คำประสม 5 คำ   คำซ้อน 5 คำ
          4. คำประสม 4 คำ   คำซ้อน 6 คำ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำประสม 6 คำ คือ นักข่าว รับผิดชอบ หน้าที่ ที่มา แหล่งข่าว ผู้สื่อข่าว
          คำซ้อน 4 คำ คือ ติดตาม ต่อเนื่อง หวาดหวั่น ดีเด่น
******************************************
33. คำซ้อนในข้อใดมีวิธีประกอบคำต่างกับข้ออื่น
          1. ตื้นลึกหนาบาง ข้าเจ้าบ่าวนาย ปู่ย่าตายาย
          2. เกิดดอกออกผล เก็บภาษีเรียกอากร จุดไต้ตามไฟ
          3. ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ล้มหมอนนอนเสื่อ ก่อร่างสร้างตัว
          4. กู้หนี้ยืมสิน ทำไร่ไถนา อุ้มลูกจูงหลาน
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 นำคำที่มีความหมายตรงข้ามกันมาซ้อนกัน
          ข้อ 2, ข้อ 3 และข้อ 4 นำคำที่มีความหมายใกล้เคียงมาซ้อนกัน
*********************************************
34. ข้อใดมีคำสมาสและคำประสมจำนวนเท่ากัน
          1. อดิเรก ถ่ายทอด ประทานพร อำนาจรัฐ
          2. ฆาตกรรม สมัยนิยม สามัญชน เบญจวรรณ
          3. วิทยุสาร ชัยเภรี กลโกง มารสังคม
          4. สัจนิยม อัฐทิศ ภัยธรรมชาติ ขัติยนารี
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 คำสมาสมีสนธิ คือ อดิเรก
                   คำประสม คือ ถ่ายทอด ประทานพร อำนาจรัฐ
          ข้อ 2 เป็นคำสมาสทั้ง 4 คำ
          ข้อ 3 คำสมาส คือ วิทยุสาร ชัยเภรี
                   คำประสม คือ กลโกง มารสังคม
          ข้อ 4 คำสมาส คือ สัจนิยม อัฐทิศ ขัติยนารี
                   คำประสม คือ ภัยธรรมชาติ
**********************************************
35. ข้อความตอนใดมีคำยืมภาษาต่างประเทศน้อยที่สุด
เมื่อพูดกับบุคคลที่เรายกย่อง (1)
ต้องเลือกใช้คำพูดที่สุภาพ แสดงว่าให้เกียรติ (2)
เมื่อพูดกับผู้ที่มีฐานะทางสังคมเท่า ๆ กัน (3)
อาจใช้คำแสดงความเป็นกันเองได้ (4)
          1. ตอนที่ 1
          2. ตอนที่ 2
          3. ตอนที่ 3
          4. ตอนที่ 4
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 คำยืม คือ บุคคล
          ข้อ 2 คำยืม คือ สุภาพ แสดง เกียรติ
          ข้อ 3 คำยืม คือ ฐานะ สังคม
          ข้อ 4 คำยืม คือ อาจ แสดง
***********************************************
36. ข้อใดไม่ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ
          1. โรงเรียนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมผู้ปกครองครั้งนี้รายละ 300 บาท
          2. ในอดีตแหล่งน้ำของไทยมีอยู่อย่างเพียงพอต่อการใช้ประโยชน์
          3. การท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนไปสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
          4. ปัจจุบันโทรศัพท์ได้วิวัฒนาการให้มีความสามารถในการใช้ที่ทันสมัยขึ้น
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ "ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุม"
          ข้อ 2 ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ "มีอยู่อย่างเพียงพอต่อการใช้ประโยชน์"
          ข้อ 3 ใช้สำนวนภาษาได้เหมาะสมกว่าข้ออื่น
          ข้อ 4 ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ "ให้มีความสามารถในการใช้ที่ทันสมัยขึ้น"
*********************************************
37. ข้อใดใช้คำถูกต้องตรงตามความหมาย
          1. เธองอนเขาจนเกินเลย
          2. เขาปอกมะพร้าวมากจนเกินแกง
          3. เขาทำงานได้ปริมาณเกินหน้ากว่าทุกครั้ง
          4. น้องสาวของฉันทำงานหนักจนเกินตัว
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 ใช้คำไม่ถูกต้องตรงความหมาย
                   เกินเลย หมายถึง แสดงกิริยาวาจาต่อผู้อื่นโดยขาดสัมมาคารวะ
          ข้อ 2 ใช้คำไม่ถูกต้องตรงความหมาย
                   เกินแกง หมายถึง มีมากกว่าหรือยิ่งกว่ากำหนด
                                               ควรใช้ว่า เกินไป คือ เกินพอดี
          ข้อ 3 ใช้คำไม่ถูกต้องตรงความหมาย
                   เกินหน้า หมายถึง เด่นกว่า
          ข้อ 4 ใช้คำถูกต้องตรงความหมาย
                   เกินตัว หมายถึง เกินกำลังความสามารถ
***********************************************
38. ข้อใดใช้คำว่า "น้อง" ในความหมายตรง
          1. น้อง น้อง ห้องน้ำอยู่ไหนคะ
          2. คุณอาแดงเป็นน้องของพ่อเรา
          3. น้องนุ่นได้รับรางวัลเรียนดีทุกปี
          4. ริจะเป็นโจรมันก็อย่างนี้แหละน้อง ต้องเจอตำรวจบ่อย
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1, ข้อ 3 และข้อ 4 น้อง เป็นคำเรียกคนที่มีอายุคราวน้อง
          ข้อ 2 น้อง หมายถึง ผู้ร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน และเกิดทีหลัง
***********************************************
39. คำที่อยู่ในวงเล็บ () คู่ใดทำหน้าที่ทางไวยากรณ์ต่างกัน
 (การศึกษาที่ดี (1)) และการสำเร็จในกิจการต่าง ๆ ที่อาจทำให้เราเป็นคนใหญ่โตในภายหน้า
ไม่ใช่แต่จะไปอยู่ (มหาวิทยาลัย (2)) อย่างเดียว ผู้ที่มี (การศึกษาที่ดี (1)) ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับโอกาส
ไปเรียนตาม (มหาวิทยาลัย (2)) แต่เป็นผู้ที่สามารถจะเรียนได้ไม่ว่า (ที่ไหน (3))
ผู้ที่ไม่ต้องมี (ครู (4)) ผู้ที่มีความสามารถมีสมองที่จะเรียนได้ด้วยตนเอง
ไม่ว่าจะอยู่ (ที่ไหน (3)) โดยใช้หนังสือเป็นมัคคุเทศก์แทน (ครู (4))
          1. คู่ที่ 1 การศึกษาที่ดี
          2. คู่ที่ 2 มหาวิทยาลัย
          3. คู่ที่ 3 ที่ไหน
          4. คู่ที่ 4 ครู
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 "การศึกษาที่ดี" คำแรก ทำหน้าที่เป็นประธาน
                   "การศึกษาที่ดี" คำที่สองไม่ได้ทำหน้าที่เป็นประธาน
          ข้อ 2 "มหาวิทยาลัย" ทั้งสองคำทำหน้าที่ขยายกริยา
          ข้อ 3 "ที่ไหน" ทั้งสองคำทำหน้าที่ขยายกริยา
          ข้อ 4 "ครู" ทั้งสองคำทำหน้าที่ขยายกริยา
************************************************
40. คำที่อยู่ในวงเล็บข้อใดเป็นคำกริยาอกรรม
          1. บริเวณป่ารอบตัวมืด (สนิท)
          2. น้ำหวานเหนียวข้น (กระเซ็น) ติดฝามุมห้อง
          3. เราต่างถอดรองเท้า (ออก) วางไว้ข้างบันได
          4. สายลมแรง (โยก) กิ่งก้านต้นไม้ให้ไหวเอน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 สนิท เป็นคำวิเศษณ์
          ข้อ 2 กระเซ็น หมายถึง อาการที่ของเหลวกระเด็นเป็นฝอย
                   กระเซ็น เป็นอกรรมกริยา
          ข้อ 3 ออก เป็นคำกริยา ทำหน้าที่ขยาย
          ข้อ 4 โยก เป็นสกรรมกริยา
*********************************************
41. คำที่อยู่ในวงเล็บในข้อใดเป็นคำบุพบท
          1. แสงอาทิตย์ส่องกระทบแหวน (ที่) เธอสวมอยู่
          2. ผมเห็นเด็กชายถือขนมปัง (และ) ขนมแป้งอบ
          3. สาวน้อยนางหนึ่งยืนอยู่ (ริม) ลำธาร
          4. นกสาลิกาดง (จาก) เราไปแล้ว
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 "ที่" เป็นประพันธสรรพนาม
          ข้อ 2 "และ" เป็นคำสันธาน
          ข้อ 3 "ริม" เป็นคำบุพบท บอกตำแหน่งที่สาวน้อยยืนอยู่
          ข้อ 4 "จาก" เป็นคำกริยา
********************************************
42. ข้อใดมีคำพ้องที่เป็นทั้งคำนามและคำกริยา
          1. มันชนิดนี้เป็นมันที่อร่อยกว่ามันชนิดอื่น
          2. เขาปีนเขาได้แสดงว่าเขาแข็งแรง
          3. แม่ขันน้องจนขันตกจากมือก็ยังไม่หายขัน
          4. ถ้ากันไปด้วยก็คงจะกันแกไม่ให้ไปตีกันกับเขา
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 มัน ทั้ง 3 คำ เป็นคำนาม
                         หมายถึง หัวมันที่ใช้เป็นอาหารได้
          ข้อ 2 เขา คำที่ 1 และคำที่ 3 เป็นคำสรรพนาม
                          หมายถึง คำที่ใช้แทนชื่อผู้ที่เราพูดถึง
                   เขา คำที่ 2 เป็นคำนาม
                          หมายถึง เนินที่สูงขึ้นไปเป็นจอมเด่น
          ข้อ 3 ขัน คำที่ 1 และคำที่ 3 เป็นคำกริยา
                         หมายถึง หัวเราะ
                   ขัน คำที่ 2 เป็นคำนาม
                         หมายถึง ภาชนะสำหรับตักน้ำ
          ข้อ 4 กัน คำที่ 1 เป็นคำสรรพนาม
                         หมายถึง คำที่ใช้แทนชื่อผู้พูด
                   กัน คำที่ 2 เป็นคำกริยา
                         หมายถึง กีดขวาง ไม่ให้เข้ามาหรือออกไป
                   กัน คำที่ 3 เป็นคำวิเศษณ์
                         เป็นคำประกอบท้ายกริยาของผู้กระทำตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
                         แสดงการกระทำร่วมกัน อย่างเดียวกัน
**********************************************
43. ข้อใดไม่เป็นคำสมาสทุกคำ
          1. วีรบุรุษ ทุนทรัพย์ นาฏศิลป์
          2. เอกชน ปาฐกถา วาตภัย
          3. ภาพยนตร์ บุตรทาน วิศวกรรม
          4. โจรภัย ปิยมหาราช มยุรฉัตร
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ทุนทรัพย์ ไม่ใช่คำสมาส แต่อ่านออกเสียงอย่างคำสมาส
          ทุน ไม่ใช่คำที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต
*************************************************
44. ข้อใดมีคำซ้ำที่ใช้เป็นคำเดี่ยวไม่ได้
          1. กำลังเดิน ๆ อยู่ฝนก็ตก
          2. เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ๆ เชื่อเถอะ
          3. นักมวยฝ่ายแดงทำหน้างง ๆ เมื่อถูกจับแพ้
          4. เปิดพัดลมเบา ๆ เดี๋ยวจะเป็นหวัด
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 กำลังเดิน ๆ ,  กำลังเดิน หมายถึง กำลังยกเท้าก้าวไป
          ข้อ 2 เกิดขึ้นจริง ๆ , เกิดขึ้นจริง หมายถึง เกิดขึ้นแน่ ไม่โกหก
          ข้อ 3 ทำหน้างง ๆ , ทำหน้างง หมายถึง ทำหน้าฉงน คิดไม่ออก
          ข้อ 4 เปิดพัดลมเบา ๆ เดี๋ยวจะเป็นหวัด หมายถึง ไม่ให้เปิดพัดลมแรง
                   เปิดพัดลมเบาเดี๋ยวจะเป็นหวัด หมายถึง ถ้าเปิดพัดลมเบาจะเป็นหวัด
*********************************************
45. คำประสมทุกคำในข้อใดมีส่วนประกอบเหมือนคำว่า "คนพิมพ์ดีด"
          1. เครื่องตัดหญ้า รถลอยฟ้า
          2. คนเก็บขยะ นักการเมือง
          3. หัวก้าวหน้า ผู้ใจบุญ
          4. ห้องนั่งเล่น ผ้ากันเปื้อน
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          คนพิมพ์ดีด ประกอบด้วย คำนาม + คำกริยา + คำกริยา
          ข้อ 1 เครื่องตัดหญ้า ประกอบด้วย คำนาม + คำกริยา + คำนาม
                   รถลอยฟ้า ประกอบด้วย คำนาม + คำกริยา + คำนาม
          ข้อ 2 คนเก็บขยะ ประกอบด้วย คำนาม + คำกริยา + คำนาม
                   นักการเมือง ประกอบด้วย คำนาม + คำนาม + คำนาม
          ข้อ 3 หัวก้าวหน้า ประกอบด้วย คำนาม + คำกริยา + คำนาม
                   ผู้ใจบุญ ประกอบด้วย คำนาม + คำนาม + คำนาม
          ข้อ 4 ห้องนั่งเล่น ประกอบด้วย คำนาม + คำกริยา + คำกริยา
                   ฟ้ากันเปื้อน ประกอบด้วย คำนาม + คำกริยา + คำกริยา
**************************************************
46. ข้อความต่อไปนี้มีคำซ้อนกี่คำ
ธรรมชาติสรรค์สร้างสิ่งดี ๆ ให้มวลมนุษย์ แต่มนุษย์เป็นผู้ทำลายจนโลกเปลี่ยนแปลงจึงต้องตักเตือนกันให้นำโลกเข้าสู่สภาพเดิมโดยเร็วไว
          1. 2 ค
          2. 3 คำ
          3. 4 ค
          4. 5 คำ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำซ้อน เป็นคำที่ประกอบด้วยคำเคียงกันอยู่ 2 คำ
                       แต่ละคำอาจมีความหมายใกล้เคียงกัน หรือตรงข้ามกัน
          ข้อความนี้มีคำซ้อน 3 คำ คือ สรรค์สร้าง เปลี่ยนแปลง เร็วไว
               สรรค์สร้าง หมายถึง สร้างให้มีให้เป็นขึ้น
               สรรค์ หมายถึง สร้างให้มีให้เป็นขึ้น
               สร้าง หมายถึง ทำให้มีขึ้น
               เปลี่ยนแปลง หมายถึง ทำให้ลักษณะต่างไป
                        เปลี่ยน หมายถึง เอาสิ่งหนึ่งเข้าแทนอีกสิ่งหนึ่ง
                        แปลง หมายถึง เปลี่ยนสิ่งเดิมให้ผิดแปลกออกไป
               เร็วไว หมายถึง ทำให้รวดเร็ว
                        เร็ว หมายถึง ไว, รีบด่วน
                       ไว หมายถึง กระทำได้คล่องแคล่วรวดเร็ว
**************************************************
47. ข้อใดสะกดถูกทุกคำ
          1. เที่ยวประพาสในพนมพนาสัณฑ์
          2. ทิศประจิมริมฐานมนฑปนั้น
          3. ประณมหัตถ์ทักษิณเกษมสันต์
          4. กระแสสินธ์สายชลเป็นวนวัง
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 ประพาส แปลว่า ไปเที่ยว,
                   พนม แปลว่า ภูเขา,
                   พนาสัณฑ์ แปลว่า ป่า
          ข้อ 2 คำที่สะกดผิด คือ มนฑป
                   คำที่ถูกต้องคือ มณฑป แปลว่า เรือนยอดที่มีรูปสี่เหลี่ยม
          ข้อ 3 คำที่สะกดผิด คือ ประณม แปลว่า การน้อมไหว้
                   คำที่ถูกต้องควรใช้ว่า ประนม แปลว่า ยกมือขึ้นกระพุ่ม
          ข้อ 4 คำที่สะกดผิด คือ สินธ์
                   คำที่ถูกต้อง คือ สินธุ์ แปลว่า แม่น้ำ
**********************************************
48. คำประพันธ์ข้อใดมีคำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤตน้อยที่สุด
          1. พระแต่งองค์เป็นพราหมณ์งามลออ      เอาเพลิงจ่อจุดเผาสำเภายนต์
          2. สองพระองค์อันดำรงอยุธเยศ      กระเดื่องเดชเลิศลบจบสถาน
          3. ชำระพักตร์หยิบสบู่มาถูล้าง      เสร็จสำอางคลาไคลเหมือนใจหมาย
          4. เมื่อพระองค์ยังทรงพระพิโรธ      ที่ไหนจะโปรดยกโทษให้
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 คำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต ได้แก่ พระ องค์ พราหมณ์ ยนต์
          ข้อ 2 คำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต ได้แก่ พระ องค์ อยุธเยศ เดช สถาน
          ข้อ 3 คำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต ได้แก่ พักตร์
          ข้อ 4 คำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต ได้แก่ พระ องค์ พิโรธ โทษ
*************************************************
49. ข้อใดไม่มีคำยืมจากภาษาต่างประเทศ
          1. พ่อแม่ควรสอนลูกว่ายาเสพย์ติดและเครื่องดื่มมึนเมาเผยแพร่กันอย่างไร
          2. การยกตัวอย่างจากรายการโทรทัศน์เพื่อสอนให้ลูกเข้าใจอันตรายเป็นวิธีที่ดี
          3. ในกรณีที่ลูกอายุต่ำกว่า 10 ขวบ พ่อแม่ควรอธิบายสั้น ๆ ให้เข้าใจง่าย
          4. ถ้าสอนอะไรยาว ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เด็กไม่รู้จัก เด็กจะเบื่อและสับสน
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 คำยืมจากภาษาต่างประเทศ ได้แก่ เสพย์
          ข้อ 2 คำยืมจากภาษาต่างประเทศ ได้แก่ โทรทัศน์ อันตราย วิธี
          ข้อ 3 คำยืมจากภาษาต่างประเทศ ได้แก่ กรณี อธิบาย
          ข้อ 4 ไม่มีคำยืมจากภาษาต่างประเทศ
*************************************************
50. ข้อใดต้องใช้คำกริยา "ขัน"
          1. ช่างประปาคงใช้คีม ... ฝาท่อไม่ออก เลยยังไม่ซ่อม
          2. ก๊อกน้ำเกลียวหวาน ... ไม่อยู่ น้ำยังหยด
          3. ผนังปูน ... ตะปูไม่อยู่ ปูนร่วงมาก
          4. เชือกหลุดทำให้ ... รอก ปิดหลังคาไม่ได้
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 คีม ต้องใช้กับคำกริยา คีบ
                   หมายถึง เอาปลายสิ่งที่เป็นง่ามจับสิ่งอื่นให้อยู่
          ข้อ 2 เกลียวก๊อกน้ำ ต้องใช้กับคำกริยา ขัน
                   หมายถึง ทำให้แน่นด้วยวิธีหมุนกวดเร่งเข้าไป
          ข้อ 3 ตะปู ต้องใช้กับคำกริยา ตอก
                   หมายถึง เอาค้อนตีตะปูให้เข้าไป
          ข้อ 4 รอก ต้องใช้กับคำกริยา ชัก
                   หมายถึง ดึงสายเชือกที่ผูกอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
                                  เพื่อให้สิ่งนั้นเคลื่อนไหวไปตามต้องการ
**************************************************
51. คำกริยาที่อยู่ในวงเล็บในข้อใดไม่ใช่กริยาอกรรม
          1. ตัวละคร (ผ่าน) ออกมาทางประตูนี้
          2. นางกินรี (พำนัก) อยู่ที่เขาไกรลาส
          3. พระสุธน (ตาม) นางมโนราห์ไป
          4. ผู้แสดง (ร่ายรำ) ด้วยท่วงท่าเข้ากับทำนองเพลง
เฉลยข้อ 3 เหตุผล 
          อกรรมกริยา คือ กิริยาที่ไม่ต้องมีกรรมมารับ ก็ได้ความหมายสมบูรณ์
          ข้อ 1 ผ่าน เป็น อกรรมกริยา
          ข้อ 2 พำนัก เป็น อกรรมกริยา
          ข้อ 3 ตาม ไม่ใช่อกรรมกริยา เพราะมีกรรมมารับ คือ นางมโนราห์
          ข้อ 4 ร่ายรำ เป็น อกรรมกริยา
************************************************
52. คำเชื่อมในข้อใดใช้เติมในช่องว่างได้อย่างถูกต้อง
"แผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 .................. จะเลอเลิศขนาดไหน ............. คนไทยไม่ช่วยกันจริง มัวแต่เลื่อยขากันเอง ............... ประโยชน์ส่วนตัวแล้ว ................ จะทำให้ขาดความเชื่อมั่น .............. ขาดความเชื่อมั่นเมื่อไรประเทศไทยล้มแน่นอน"
          1. ถึง ... หาก ... โดย ... คง ... ซึ่ง
          2. แม้ว่า ... หาก ... ก็ ... จึง ... พอ
          3. แม้ ... ถ้า ... เพื่อ ... ก็ ... หาก
          4. ถึง ... ถ้า ... สำหรับ ... ที่ ... เมื่อ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          แม้ หมายถึง ผิว่า หากว่า
          ถ้า เป็นคำแสดงความคาดหมาย คาดคะเน
          เพื่อ หมายถึง เหตุด้วย เพราะว่า
          ก็ หมายถึง ย่อม จึง
          หาก หมายถึง ถ้า แม้
************************************************
53. ข้อใดไม่ใช้โครงสร้างประโยคแบบภาษาต่างประเทศ
          1. เรื่องนี้ง่ายต่อการเข้าใจ
          2. งานเขียนของเขาเป็นที่สนใจของคนหมู่มาก
          3. แม่มีลูกถึง 7 คน จึงต้องรู้จักวิธีบริหารเงิน
          4. ทุกสิ่งทุกอย่างจบลงด้วยความตายของตัวเอก
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 ควรใช้ว่า เรื่องนี้เข้าใจง่าย
          ข้อ 2 ควรใช้ว่า คนหมู่มากสนใจงานเขียนของเขา
          ข้อ 3 เป็นประโยคความรวม
                  ประกอบด้วยประโยคความเดียว 2 ประโยค คือ
                  แม่มีลูกถึง 7 คน (แม่) ต้องรู้จักวิธีบริหารเงิน
                  คำเชื่อมคือ จึง ประโยคเรียงตามลำดับคือ ประธาน กริยา กรรม
          ข้อ 4 ควรใช้ว่า เมื่อตัวเอกตายทุกสิ่งทุกอย่างก็จบลง
***********************************************
54. ประโยคใดใช้คำกริยาถูกต้องตรงตามความหมาย
          1. หลังจากผ่าตัดได้เพียง 1 อาทิตย์ ดาราชื่อดังก็ฟื้นตัวดีขึ้นมาก
          2. รัฐบาลอนุมัติเงินงบประมาณ 300 ล้านบาท ให้ฟื้นฟูบาทวิถีในกรุงเทพฯ
          3. สะพานนี้ชำรุดแล้ว ทางจังหวัดกำลังเตรียมรื้อฟื้นต้นเดือนหน้านี้
          4. ชาวบ้านสามารถพลิกฟื้นแผ่นดินที่แห้งแล้งแห่งนี้ให้อุดมสมบูรณ์ได้
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 ฟื้นตัว หมายถึง กลับดีขึ้น มักใช้ทางด้านเศรษฐกิจ
           ควรใช้ มีอาการดีขึ้น อาการ หมายถึง สภาพ ความเป็นไป
          ข้อ 2 ฟื้นฟู หมายถึง ทำให้กลับเจริญงอกงาม
           ควรใช้ ปรับปรุง หมายถึง แก้ไขให้เรียบร้อยยิ่งขึ้น
          ข้อ 3 รื้อฟื้น หมายถึง เอาขึ้นมาทำใหม่
           ควรใช้ ซ่อมแซม หมายถึง แก้ไขเพิ่มเติมของที่ชำรุดให้คืนดี
          ข้อ 4 พลิกฟื้น หมายถึง พลิกกลับขึ้นมา เช่น ฟื้นดิน
***************************************************
55. ประโยคใดวางส่วนขยายถูกต้อง
          1. ห้ามเด็ดขาดนั่งหลังคารถไฟ
          2. การอ่านเป็นปุ๋ยอย่างดีที่บำรุงสมองเด็ก
          3. ครูเป็นทรัพยากรบุคคลในการส่งเสริมการศึกษาที่สำคัญ
          4. เขาเริ่มพัฒนาอย่างเร่งรีบเรื่องสาธารณูปโภคในหมู่บ้าน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 ควรแก้ไขเป็น ห้ามนั่งหลังคารถไฟเด็ดขาด
          ข้อ 2 วางส่วนขยายได้ถูกต้องแล้ว
          ข้อ 3 ควรแก้ไขเป็น ครูเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในการส่งเสริมการศึกษา
          ข้อ 4 ควรแก้ไขเป็น เขาเริ่มพัฒนาเรื่องสาธารณูปโภคในหมู่บ้านอย่างเร่งรีบ
**************************************************
56. ประโยคคู่ใดสื่อความหมายได้ทั้งเหมือนและต่างกัน
          1. เขาซื้อจานทองเหลืองใส่คลิปพร้อมปากกาทอง
              เขาซื้อปากกาทองพร้อมจานใส่คลิปทองเหลือง
          2. ทำไมไม่ช่วยเขาล่ะ น่าสงสารออก
              ช่วยเขาหน่อยสิ เขาน่าสงสารออก
          3. ผมได้ขายแหวนคุณสุดาไปแล้ว
              ผมได้ขายแหวนให้คุณสุดาไปแล้ว
          4. ทำไมถามอยู่ได้ น่ารำคาญ
              ถามตั้งหลายครั้งแล้ว รำคาญจริง
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ผมได้ขายแหวนคุณสุดาไปแล้ว
               อาจหมายถึง ผมได้ขายแหวนของคุณสุดาไปแล้ว
                             หรือ ผมได้ขายแหวนให้คุณสุดาไปแล้ว
**************************************************
57. ข้อใดมีส่วนประกอบของประโยคเหมือนประโยคตัวอย่าง
"ดอกไม้เหี่ยวในแจกันดูน่าเกลียด"
          1. แมวน้อยสีขาวตัวอ้วนนอนหลับสนิท
          2. ผู้หญิงแก่ข้างบ้านให้อาหารหมาจรจัด
          3. คนกวาดถนนผู้หญิงทำงานอย่างคล่องแคล่ว
          4. พนักงานหนุ่มหน้าร้านขี้เกียจมาก
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          "ดอกไม้เหี่ยวในแจกันดูน่าเกลียด"
           ประกอบด้วย ประธาน ส่วนขยายประธาน กริยา และส่วนขยายกริยา
          ข้อ 4 "พนักงานหนุ่มหน้าร้านขี้เกียจมาก"
           มีส่วนประกอบของประโยคเหมือนประโยค
          ตัวอย่าง
                    พนักงาน - ประธาน
                    หนุ่ม, หน้าร้าน - ส่วนขยายประธาน
                    ขี้เกียจ - กริยา
                    มาก - ส่วนขยายกริยา
**************************************************
58. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
          1. คนที่มีสุขภาพดีมาจากคนที่กินอาหารดีถูกหลักโภชนาการ
          2. การทำงานให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพมิได้อยู่ที่คนเพียงคนเดียว
          3. ขณะนี้ถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติอย่างจริงจัง
          4. ความมีน้ำใจที่แท้ไม่ได้มาจากความจำเป็น หากมาจากความต้องการที่จะให้
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1, 3 และ 4 ไม่ใช่ประโยคความเดียว เพราะมีเนื้อความมากกว่าหนึ่ง
          ข้อ 2 เป็นประโยคความเดียว
                   ภาคประธาน คือ การทำงานให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ
                   ภาคแสดง คือ มิได้อยู่ที่คนเพียงคนเดียว
******************************************
59. ข้อใดเป็นประโยคสมบูรณ์
          1. สภาพของโลกาภิวัฒน์ที่มีความเข้มข้นและจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นจนมีผลกระทบอย่างจริงจังต่อการอุดมศึกษาไทยในอนาคต
          2. ปัจจุบันองค์กรปกป้องท้องถิ่นที่นับว่าสำคัญมากที่สุดของประเทศไทยที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุด
          3. ดังนั้นการมองดูสภาพแห่งโลกาภิวัฒน์ที่จะมีผลต่อการอุดมศึกษาไทยจึงน่าจะเป็นจุดสำคัญในการหล่อหลอมปรัชญาและความหมายของการอุดมศึกษาไทยในอนาคต
          4. ถึงแม้ว่าขณะนี้หลายหน่วยงานจะได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจให้ดำเนินควบคู่ไปกับการรักษาและฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อม
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1, 2 และ 4 ไม่เป็นประโยค ความยังไม่สมบูรณ์
                                  โดยเฉพาะข้อ 2 ไม่มีภาคแสดง
          ข้อ 3 เป็นประโยค
                   ภาคประธาน คือ การมองดูสภาพแห่งโลกาภิวัฒน์ที่จะมีผลต่อการอุดมศึกษาไทย
                   ภาคแสดง คือ น่าจะเป็นจุดสำคัญในการหล่อหลอมปรัชญาและความหมายของการอุดมศึกษาไทยในอนาคต
                   คำว่า ดังนั้น จึง แสดงให้เห็นว่าประโยคนี้เป็นข้อความสรุปที่ต่อมาจากข้อความที่สนับสนุน ถ้าใช้ตามลำพังก็ไม่ควรมี ดังนั้น จึง
********************************************
60. ข้อใดมีส่วนประกอบของประโยคเหมือนประโยคตัวอย่าง "เทศบาลเร่งปลูกต้นไม้ใหม่"
          1. แดงไปเที่ยวตามสวนสาธารณะต่าง ๆ
          2. น้องชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น
          3. แม่ครัวมักซื้อผลไม้ร้านประจำ
          4. แม่กำลังตรวจบัญชีรายจ่ายของบ้าน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ประโยค "เทศบาลเร่งปลูกต้นไม้ใหม่"
          ประกอบด้วย บทประธาน บทกริยา (กริยาแท้ 2 ตัว) บทกรรม และบทขยายกรรม
          ข้อ 1 ไม่มีบทกรรม
          ข้อ 2 บทประธาน คือ น้อง บทกริยา (กริยาแท้ 2 ตัว) คือ ชอบอ่าน
                   บทกรรม คือ การ์ตูน บทขยายกรรม คือ ญี่ปุ่น
          ข้อ 3 มีกริยาแท้เพียงตัวเดียว คือ ซื้อ
          ข้อ 4 มีกริยาแท้เพียงตัวเดียว คือ ตรวจ

*****************************************
61. สำนวนในข้อใดเป็นวลี
          1. เรือใหญ่คับคลอง
          2. ปากไม่สิ้นกลี่นน้ำนม
          3. หวานเป็นลมขมเป็นยา
          4. ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 เป็นประโยค ภาคประธาน คือ เรือใหญ่ ภาคแสดง คือ คับคลอง
          ข้อ 2 เป็นประโยค ภาคประธาน คือ ปาก ภาคแสดง คือ ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
          ข้อ 3 เป็นประโยค ภาคประธาน คือ หวาน ขม ภาคแสดง คือ เป็นลม เป็นยา
          ข้อ 4 เป็นวลี ไม่มีภาคแสดง
**************************************
62. ข้อใดไม่ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ
          1. ชาวต่างชาติมักจะกล่าวว่าวิชาภาษาไทยยากแก่การเรียน
          2. รัฐบาลพยายามประชาสัมพันธ์ให้คนไทยช่วยกันประหยัดอย่างจริงจัง
          3. คณะกรรมการชมรมนักเรียนเก่าชุดนี้ถูกจับตามองจากสมาชิกตลอดเวลา
          4. การนำชาวบ้านมาชุมนุมประท้วงครั้งนี้ทำให้ประเทศได้รับความเสียหายมาก
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ "ภาษาไทยยากแก่การเรียน"
          ข้อ 2 ไม่ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ
          ข้อ 3 ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ "ถูกจับตามองจากสมาชิกตลอดเวลา"
          ข้อ 4 ใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ "การนำชาวบ้านมาชุมนุมประท้วงครั้งนี้"
**********************************************
63. ข้อความใดมีความหมายเหมือนกัน
      ก. แนวทางการสร้างงานวิจัยของสถาบันอุดมศึกษาที่มีคุณภาพ
      ข. แนวทางการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษา
      ค. แนวทางที่มีคุณภาพในการสร้างงานวิจัยของสถาบันอุดมศึกษา
      ง. แนวทางของสถาบันอุดมศึกษาในการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพ
          1. ก. และ ค.
          2. ข. และ ค.
          3. ก. และ ง.
          4. ข. และ ง.
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อความต่อไปนี้มีความหมายกล่าวถึงสิ่งที่มีคุณภาพแตกต่างกัน
          ข้อความ ก ข้อความกล่าวถึง สถาบันอุดมศึกษาที่มีคุณภาพ
          ข้อความ ข ข้อความกล่าวถึง แนวทางการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพ
          ข้อความ ค ข้อความกล่าวถึง แนวทางที่มีคุณภาพในการสร้างงานวิจัย
          ข้อความ ง ข้อความกล่าวถึง แนวทางในการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพ
          ข้อความ ข และข้อความ ง มีความหมายเหมือนกัน
********************************************
64. ข้อใดเป็นประโยคสมบูรณ์
          1. การประหยัดทรัพยากรธรรมชาติเป็นกระแสของคนรุ่นใหม่
          2. การเสนอผลงานวิจัย ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
          3. การเอ่ยถึงสวรรค์บนดิน ซึ่งห่างไกลจากเมืองเจ้าพ่อ
          4. การทำความรู้จักรากเหง้าของบรรพบุรุษของเรา
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 ภาคประธาน คือ "การประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ"
                   ภาคแสดง คือ "เป็นกระแสของคนรุ่นใหม่"
          ข้อ 2, ข้อ 3 และข้อ 4 ไม่ใช่ประโยค เพราะไม่มีภาคแสดง
*******************************************
65. ข้อใดเป็นประโยคชนิดเดียวกับประโยคต่อไปนี้
"ที่โรงพยาบาลของเรา เราให้ความสำคัญยิ่งยวดในการบำบัดฟื้นฟูจิตใจของผู้สูงอายุ"
          1. คุณจะได้พบกับศูนย์กายภาพบำบัดในบรรยากาศของบ้านใจกลางเมือง
          2. เราสร้างสรรค์สถานที่อันร่มรื่น สะอาด ทันสมัย เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง
          3. กิจกรรมสันทนาการทั้งในและนอกสถานที่ทำให้การบำบัดรักษาได้ผลดีอย่างยิ่ง
          4. เราคือโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศที่บริการผู้ป่วยอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          "ที่โรงพยาบาลของเรา เราให้ความสำคัญยิ่งยวดในการบำบัดฟื้นฟูจิตใจของผู้สูงอายุ" เป็นประโยคความเดียว
          ภาคประธานคือ เรา
          ภาคแสดงคือ ให้ความสำคัญยิ่งยวดในการบำบัดฟื้นฟูจิตใจของผู้สูงอายุที่โรงพยาบาลของเรา
          ข้อ 1 เป็นประโยคความเดียว
                   ภาคประธานคือ คุณ ภาคแสดงคือจะได้พบกับศูนย์กายภาพบำบัดในบรรยากาศของบ้านใจกลางเมือง
          ข้อ 2, 3 และข้อ 4 เป็นประโยคความซ้อน
*******************************************
66. คำที่อยู่ในวงเล็บในข้อใดเป็นคำกริยาสกรรม
          1. พวกตัดไม้ยัง (ตัด) กันไม่หยุด
          2. วัวแดงตัวนั้น (ล้มจม) พงหญ้า
          3. ขบวนเรือ (ถึง) วัดตอนดึกเกือบห้าทุ่ม
          4. ไม้สักต้นกำลังงาม (ขึ้นปน) กับไม้แดงไม้ยาง
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 ตัด หมายถึง ทำให้ขาดด้วยของมีคม
                   เป็นสกรรมกริยา ในที่นี้คือตัดไม้ แต่ละกรรมไว้
          ข้อ 2, ข้อ 3 และข้อ 4 เป็นอกรรมกริยา
********************************************
67. ข้อความใดประกอบด้วยประโยคที่ละทั้งคำที่ทำหน้าที่ประธานและกรรม
          1. ฉันไม่ชอบซื้อปลาที่ตลาดสด เพราะไม่อยากเห็นปลาถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา
          2. วันนี้แม่จะกลับบ้านเย็นคงไม่มีเวลาทำกับข้าว พ่อจะทำเอง
          3. บุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ คุณน่าจะเลิกสูบเพื่อสมาชิกในครอบครัว
          4. รัฐกำลังดำเนินการเวนคืนที่ดิน เราจะถูกเวนคืนที่ดินบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 "ไม่อยากเห็นปลาถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา" ละประธาน "ฉัน"
          ข้อ 2 "คงไม่มีเวลาทำกับข้าว" ละประธาน "แม่"
                   "พ่อจะทำเอง" ละกรรม "กับข้าว"
          ข้อ 3 "คุณน่าจะเลิกสูบ" ละกรรม "บุหรี่"
          ข้อ 4 "ก็ไม่รู้" ละประธาน "เรา"
******************************************
68. ข้อใดไม่ใช่ประโยค
          1. ร่วมกันพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อโลกใบใหญ่ของเรา
          2. ธรรมชาติต่างผูกพันด้วยสายใยแห่งชีวิตอันละเอียดอ่อน
          3. จากอยุธยาสู่เมืองจันท์ ตามรอยทัพกู้ชาติพระเจ้าตากสินมหาราช
          4. 80 ปีอุโมงค์รถไฟถ้ำขุนตาน สถานที่อนุรักษ์ทรัพยากรด้านป่าไม้ของกรมป่าไม้
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อความนี้ไม่มีภาคแสดง มีแต่ภาคประธาน จึงยังไม่ใช่ประโยค
******************************************
69. ข้อใดเป็นได้ทั้งวลีและประโยค
          1. สถานีสูบน้ำพระโขนง
          2. เด็กส่งของ
          3. นักเรียนมาสาย
          4. ผู้จัดการมรดก
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 เป็นวลี เพราะไม่มีภาคแสดง
          ข้อ 2 เป็นได้ทั้งวลี คือ เด็กส่งของ (เด็กที่ทำหน้าที่ส่งของ)
                   เป็นประโยคมีภาคประธาน คือ เด็ก ภาคแสดง คือ ส่งของ
          ข้อ 3 เป็นประโยค มีภาคประธาน คือ นักเรียน ภาคแสดง คือ มาสาย
          ข้อ 4 เป็นวลีเพราะไม่มีภาคแสดง
****************************************
70. ข้อใดเป็นประโยคความซ้อน
          1. สมชายวางมือจากกิจการทุกอย่างที่บริษัท
          2. แม่ใส่นาฬิกาเรือนใหม่ที่พ่อให้
          3. คุณยายไปถือศีลแปดที่วัดทุกวันพระ
          4. วันนี้พ่อประชุมที่ทำงานตลอดวัน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1, ข้อ 3 และข้อ 4 เป็นประโยคความเดียว
          ข้อ 2 เป็นประโยคความซ้อน
                   ประโยคหลัก คือ แม่ใส่นาฬิกาเรือนใหม่
                   ประโยคย่อย คือ (นาฬิกา) พ่อให้ "ที่" ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อม
*******************************************
71. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
          1. สุดาร้องเพลงไทยเก่งมาก
          2. สมชายกับเพื่อนนัดซ้อมฟุตบอลทุกเย็น
          3. ฐานะการเงินของเขาตกต่ำลงอย่างมาก
          4. นักกีฬาพิการได้รับคำชมในความอดทน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1, ข้อ 3 และข้อ 4 เป็นประโยคความเดียว
****************************************
72. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
          1. แม่นอนซมตลอดวันเพราะพิษไข้
          2. ขณะนี้เราลดค่าใช้จ่ายได้หลายอย่าง
          3. คุณตาออกกำลังกายด้วยการเดินทุกเช้า
          4. เราคงซื้อหนังสือตอนเขาลดราคาเท่านั้น
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          มีใจความ 2 ใจความ คือ เราคงซื้อหนังสือ, เขาลดราคา
          คำเชื่อมคือ ตอน
********************************************
73. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
          1. สมบัติขึ้นรถไฟไปเที่ยวทางใต้ทุกปี
          2. คุณยายตื่นขึ้นมาทำอะไรกุกกักตอนดึกบ่อย ๆ
          3. เรื่องสั้นของ "วินทร์" มักจะจบแบบหักมุม
          4. ตอนเด็ก ๆ เขาว่ายน้ำไปเกาะเรือโยงเสมอ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ภาคประธาน คือ เรื่องสั้นของ "วินทร์"
          ภาคแสดง คือ มักจะจบแบบหักมุม
*****************************************
74. ข้อใดไม่ใช่ประโยค
          1. เด็กที่นั่งรถไฟมากับฉันเป็นน้องชายของเพื่อน
          2. คณะกรรมการพิจารณาแผนพัฒนาสมาคมสตรี
          3. สถานีวิทยุกระจายเสียงทุกแห่งออกอากาศพร้อมกัน
          4. สัมมนาเรื่องการพัฒนาสื่อมวลชนของนักข่าวหนังสือพิมพ์
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 ภาคประธาน คือ เด็กที่นั่งรถไฟมากับฉัน
                   ภาคแสดง คือ เป็นน้องชายของเพื่อน
          ข้อ 2 ภาคประธาน คือ คณะกรรมการ
                   ภาคแสดง คือ พิจารณาแผนพัฒนาสมาคมสตรี
          ข้อ 3 ภาคประธาน คือ สถานีวิทยุกระจายเสียงทุกแห่ง
                   ภาคแสดง คือ ออกอากาศพร้อมกัน
          ข้อ 4 ภาคประธาน คือ สัมมนาเรื่องการพัฒนาสื่อมวลชนของนักข่าวหนังสือพิมพ์
                   ภาคแสดงไม่มี
***********************************************
75. "งานจะสำเร็จได้ทุกคนต้องร่วมปรึกษาหารือกัน ร่วมทำงานกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ ถ้าเป็นเช่นนี้ย่อมประสบความสำเร็จได้ยาก"
การทำงานที่ไม่ประสบความสำเร็จตรงกับสำนวนในข้อใด
          1. พายเรือคนละที
          2. พายเรือทวนน้ำ
          3. พายเรือในหนอง
          4. พายเรือในอ่าง
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 พายเรือคนละที หมายถึง ทำงานไม่ประสานกัน
          ข้อ 2 พายเรือทวนน้ำ หมายถึง ทำด้วยความยากลำบาก
          ข้อ 3 พายเรือในหนอง หมายถึง พูดวกวนกลับไปกลับมา
          ข้อ 4 พายเรือในอ่าง หมายถึง พูดวกวนกลับไปกลับมา
****************************************
76. ความหมายของสำนวนคู่ใดไม่เป็นไปในทำนองเดียวกัน
          1. ขิงก็รา ข่าก็แรง - ขนมผสมน้ำยา
          2. ยุให้รำ ตำให้รั่ว - เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน
          3. ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ - ตำข้าวสารกรอกหม้อ
          4. แกว่งเท้าหาเสี้ยน - เอามือซุกหีบ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 ขิงก็รา ข่าก็แรง หมายถึง ต่างไม่ยอมลดละกัน
                   ขนมผสมน้ำยา หมายถึง พอดีกัน จะว่าข้างไหนดีกว่ากันไม่ได้
          ข้อ 2 ยุให้รำ ตำให้รั่ว หมายถึง ยุให้ผิดใจกัน
                   เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน หมายถึง ยุยงให้ทะเลาะกัน
          ข้อ 3 ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หมายถึง ลงทุนไปโดยได้ผลประโยชน์ไม่คุ้มทุน
                   ตำข้าวสารกรอกหม้อ หมายถึง หาเพียงแค่พอกินไปมื้อหนึ่ง ทำพอให้เสร็จไปชั่วครั้งหนึ่ง ๆ
          ข้อ 4 แกว่งเท้าหาเสี้ยน หมายถึง รนหาเรื่องเดือดร้อน
                   เอามือซุกหีบ หมายถึง หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวโดยใช่ที่
******************************************
77. ข้อใดใช้สำนวนไทยถูกต้อง
          1. ลูกสาวเธอโชคดีนะตกถังข้าวสาร ได้แต่งงานกับเศรษฐีที่ดินสบายไปเลย
          2. แกงชามนี้เติมเกลือแล้วรสดีขึ้นมาก เห็นไหมล่ะแกงจืดจึงรู้คุณเกลือ
          3. คนบ้านใกล้เรือนเคียง ต้องมีน้ำใจไมตรีแบ่งปันกันแบบหมูไปไก่มา
          4. เชิญคุณเลือกทำเลและแบบบ้านเองดีกว่าครับ เพราะเดี๋ยวจะเข้าตำราปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทลาย
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 สำนวนที่ถูกต้องคือ หนูตกถังข้าวสาร หมายถึง ผู้ชายที่มีฐานะไม่ค่อยดีได้แต่งงานกับผู้หญิงที่รวย
          ข้อ 2 แกงจืดจึงรู้คุณเกลือ หมายถึง เมื่อขาดของสิ่งนั้น จึงรู้ค่า
          ข้อ 3 หมูไปไก่มา หมายถึง ลักษณะของการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันด้วยการให้สิ่งของแลกเปลี่ยน หรือตอบแทนซึ่งกันและกัน
          ข้อ 4 ปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทลาย หมายถึง จะทำอะไรคิดให้รอบคอบ เพราะถ้าผิดพลาดจะแก้ไขยาก มักใช้กับการเลือกคู่ครองผิด
******************************************
78. สำนวนใดใช้กล่าวเพื่อเตือนสติ
          1. เงาตามตัว
          2. ไว้เนื้อเชื่อใจ
          3. คอขาดบาดตาย
          4. บ้านเมืองมีขื่อมีแป
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 เงาตามตัว หมายถึง ผู้ที่ไปไหนด้วยกันแทบไม่คลาดกันเลย
          ข้อ 2 ไว้เนื้อเชื่อใจ หมายถึง ไว้ใจ
          ข้อ 3 คอขาดบาดตาย หมายถึง เรื่องร้ายแรงมาก
          ข้อ 4 บ้านเมืองมีขื่อมีแป หมายถึง บ้านเมืองหรือประเทศย่อมมีกฎหมายคุ้มครอง สำนวนนี้มักใช้ในการตักเตือน ไม่ให้ทำอะไรตามใจชอบ
********************************************
79. ข้อใดใช้สำนวนไทยได้ถูกต้อง
          1. เด็กคนนี้เอางานเอาการ ท่าทางเป็นโล้เป็นพายดีมาก
          2. ตำรวจที่ดีต้องปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ไม่คิดหาเศษหาเลยจากหน้าที่
          3. เป็นลูกผู้หญิงต้องเดินเหินให้เรียบร้อยสง่างามไม่เดินมือห่างตีนห่าง
          4. พนักงานพวกนี้พอเจ้านายไม่อยู่ก็ไม่ทำงานทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าอยู่ได้
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 เป็นโล้เป็นพาย หมายถึง เอาการเอางาน เข้าท่าเข้าทางดี มักใช้ในทางปฏิเสธ
          ข้อ 2 หาเศษหาเลย หมายถึง หาประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ
          ข้อ 3 มือห่างตีนห่าง หมายถึง สุรุ่ยสุร่าย
          ข้อ 4 ลิงหลอกเจ้า หมายถึง หยอกล้อผู้ใหญ่เวลาผู้ใหญ่เผลอ
******************************************
80. สำนวนใดไม่สามารถใช้ได้ในตัวอย่างสถานการณ์ต่อไปนี้
"ตั้งแต่เจ้าโตเป็นหนุ่มมักทำความเดือดร้อนและสร้างปัญหาให้ฉันแสนสาหัสทุกวัน ฉันอยากจะ ............. ไปเลยจะได้พ้นทุกข์พ้นร้อนเสียที"
          1. ตัดเชือก
          2. ตัดหางปล่อยวัด
          3. ตัดไฟต้นลม
          4. ตัดเป็นตัดตาย
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 ตัดเชือก หมายถึง ตัดความสัมพันธ์ไม่ยอมให้ความช่วยเหลืออีกต่อไป
          ข้อ 2 ตัดหางปล่อยวัด หมายถึง ตัดขาดไม่เกี่ยวข้อง ไม่เอาเป็นธุระอีกต่อไป
          ข้อ 3 ตัดไฟต้นลม หมายถึง ตัดต้นเหตุเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามต่อไป
          ข้อ 4 ตัดเป็นตัดตาย หมายถึง ตัดขาดจากกันอย่างเด็ดขาด
********************************************
81. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ไม่ถูกต้อง
          1. สมาคมได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในแนวทางซึ่งสมเด็จพระสังฆราชได้ประทานไว้
          2. คณะนิติศาสตร์จัดงานครั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หรือพระนามเดิมพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์
          3. อธิการบดีได้ถวายปริญญาบัตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
          4. มีพิธีวางพวงมาลาที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          อธิการบดีได้ถวายปริญญาบัตร ........... ควรใช้ว่า อธิการบดีได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาบัตร
ทูลเกล้าฯ คือ ทูลเกล้าทูลกระหม่อม
**********************************************
82. "ข้าพเจ้าคือปุถุชนธรรมดา พระราชดำรัสจริง ๆ เป็นอย่างไรไม่ทราบ เพราะวาสนาน้อย ไม่อาจได้ฟังจากพระโอษฐ์ แต่เพียงเท่านี้ก็เกินพอแล้วที่ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น"
บุคคลที่ผู้พูดกล่าวถึงมิใช่พระราชวงศ์ระดับใด
          1. สมเด็จพระบรมราชินี
          2. สมเด็จพระยุพราช
          3. สมเด็จพระบรมราชกุมารี
          4. สมเด็จเจ้าฟ้า
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          พระราชดำรัส หมายถึง คำพูด
          พระราชดำรัส ใช้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระยุพราช สมเด็จพระบรมราชกุมารี ถ้าเป็นพระราชวงศ์ระดับสมเด็จเจ้าฟ้า ควรใช้ว่า พระดำรัส
********************************************
83. ข้อความตอนใดใช้ราชาศัพท์ได้ถูกต้อง
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรปีนี้ ทุกสถาบันได้มีหมายกำหนดการให้มหาบัณฑิตรับพระราชทานจากพระบรมฉายาลักษณ์แทน (1) / ทั้งนี้ด้วยถือว่าได้เคยรับพระบรมราชานุเคราะห์มาครั้งหนึ่งแล้วในระดับปริญญาตรี (2) / แต่อย่างไรก็ตามบัณฑิตทุกระดับก็จะได้รับพระราชทานพระบรมราโชวาทพร้อมกัน (3) / ซึ่งก็นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่ทรงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสดังกล่าว (4)
          1. ตอนที่ 1
          2. ตอนที่ 2
          3. ตอนที่ 3
          4. ตอนที่ 4
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 หมายกำหนดการ ควรใช้ว่า กำหนดการ
                   หมายกำหนดการ หมายถึง เอกสารแจ้งกำหนดขั้นตอนของงานพระราชพิธี
                   กำหนดการ หมายถึง ระเบียบการที่บอกถึงขั้นตอนของงานที่จะต้องทำตามลำดับ
          ข้อ 2 พระบรมราชานุเคราะห์ ควรใช้ว่า พระมหากรุณา
                   พระบรมราชานุเคราะห์ หมายถึง พระราชทานเอื้อเฟื้อช่วยเหลือ
                   พระมหากรุณา หมายถึง พระกรุณาใหญ่หลวง
          ข้อ 3 พระบรมราโชวาท หมายถึง โอวาทของพระมหากษัตริย์
          ข้อ 4 ทรงพระราชทาน ควรใช้ว่า พระราชทาน
                  "ทรง" ไม่ใช้นำหน้ากริยาที่เป็นคำราชาศัพท์อยู่แล้ว
***********************************************
84. ข้อใดเป็นราชาศัพท์ที่ใช้กับสมเด็จพระสังฆราชได้ถูกต้อง
          1. สมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระลิขิตแสดงพระวินิจฉัยกรณีเกี่ยวกับวินัยสงฆ์
          2. สมเด็จพระสังฆราชฯ มีลายพระหัตถ์ประทานพรประชาชนชาวไทย
          3. สมเด็จพระสังฆราชฯ เสด็จไปเสวยภัตตาหารเพลในพระบรมมหาราชวัง
          4. สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงพระประชวร แพทย์ผู้ถวายการรักษาจึงถวายคำแนะนำให้ทรงพัก
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 ราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ พระลิขิต
                   ลิขิต หมายถึง จดหมาย หนังสือ ใช้สำหรับพระสงฆ์
          ข้อ 2 ลายพระหัตถ์ หมายถึง จดหมาย หนังสือ ใช้สำหรับพระราชวงศ์ทั่วไป และสมเด็จพระสังฆราชประทานพร หมายถึง ให้พร
          ข้อ 3 ราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ ภัตตาหารเพล
          ข้อ 4 ราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ ทรงพระประชวร
******************************************
85. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ถูกต้อง
          1. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารเสด็จฯ แทนพระองค์ไปทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
          2. สมเด็จพระสังฆราชเสด็จพระราชดำเนินไปเจิมป้ายคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
          3. ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ประชวรอยู่เป็นเวลานาน
          4. พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีในนิตยสารฉบับนี้งดงามมาก
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 ใช้ราชาศัพท์ได้ถูกต้อง
                   เสด็จฯ หมายถึง เสด็จพระราชดำเนิน (ใช้กับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้)
                  ทรงเปิด หมายถึง เปิด
                  พระราชานุสาวรีย์ หมายถึง อนุสาวรีย์ (ใช้กับสมเด็จพระบรมราชินีได้)
          ข้อ 2 ราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ เสด็จพระราชดำเนิน (ใช้กับพระมหากษัตริย์ พระบรมราชินี พระยุพราช และเจ้านายชั้นสูง)
          ข้อ 3 ราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ สิ้นพระชนม์ ประชวร (ใช้กับสมเด็จพระราชาคณะไม่ได้)
          ข้อ 4 ราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ พระบรมฉายาลักษณ์ (ใช้กับพระมหากษัตริย์)
**********************************************
ตะลุยคลังข้อสอบ หลักภาษาไทย ชุดที่ 2 ข้อ 1-85
1. ความในข้อใดไม่ถูกต้อง
          1. สระประสมเกิดจากการประสมของสระเดี่ยว 2 เสียง
          2. ภาษาไทยจัดเป็นภาษาคำโดด  เพราะคำในภาษาเป็นคำพยางค์เดียวทั้งหมด
          3. การเขียนที่รักษารูปคำเดิมช่วยให้แยกความหมายของคำพ้องเสียงได้
          4. การออกเสียงของผู้พูดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาษาเปลี่ยนแแปลงได้
เฉลยข้อ 2 แนวคิด
          ภาษาไทยเป็นภาษาคำโดด คำในภาษาส่วนใหญ่เป็นคำพยางค์เดียว แต่บางคำก็มีหลายพยางค์
*******************************************
2. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ตรงกับเสียงวรรณยุกต์ในข้อความ "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น"
          1. หากใจมุ่งมั่นไร้แปรผัน
          2. เด็กเก่งมักขวนขวายสร้างสรรค์
          3. รีบเกี่ยวข้าวให้ทันวันเสาร์
          4. บุกบั่นมุ่งสร้างบ้านชวนฝัน
เฉลยข้อ 4 แนวคิด
          "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" มีเสียงวรรณยุกต์ดังนี้ เอก เอก โท โท โท สามัญ จัตวา ซึ่งตรงกับเสียงวรรณยุกต์ของข้อความ "บุกบั่นมุ่งสร้างบ้านชวนฝัน"
***********************************************
3. ข้อใดมีพยางค์ที่ใช้สระประสมมากที่สุด
          1. นึกเฉลียวเสียวทรวงถึงดวงจันทร์
          2. กรับประสานสวบสวบส่งเสียงใส
          3. ทั้งหวายตรวนล้วนเครื่องที่ลำบาก
          4. พลุกระจายช่อช่วงดังดวงเดือน
เฉลยข้อ 1 แนวคิด
          สระประสม คือ เอีย เอือ อัว
          ข้อ 1. ใช้สระประสม 4 แห่ง คือ เฉลียว เสียว ทรวง ตวง
          ข้อ 2. ใช้สระประสม 3 แห่ง คือ สวย สวบ เสียง
          ข้อ 3. ใช้สระประสม 3 แห่ง คือ ตรวน ล้วน เครื่อง
          ข้อ 4. ใช้สระประสม 3 แห่ง คือ ช่วง ตวง เดือน
***********************************************
4. ทุกคำในข้อใด ไม่ออกเสียงควบกล้ำ
          1. ปลัด พฤทธิ์ นิทรา
          2. ปรอท กลศ แทรก
          3. ปลาต ขรม พุทรา
          4. ปริตร ตรุษ อินทรีย์
เฉลยข้อ 3 แนวคิด
          ข้อ 1 คำที่ไม่ออกเสียงควบกล้ำ คือ ปลัด (ปะ - หลัด)
          ข้อ 2 คำที่ไม่ออกเสียงควบกล้ำ คือ ปรอท (ปะ - หลอด) แทรก (แซก)
          ข้อ 3 ทุกคำไม่ออกเสียงควบกล้ำ ปลาด (ปะ - ลาด) ขรม (ขะ - หรม) พุทรา (พุด - ซา)
          ข้อ 4 คำที่ไม่ออกเสียงควบกล้ำ คือ ปริตร (ปะ - หริด) อินทรีย์ (อิน - ซี)
************************************************
5. ข้อใดไม่มีพยางค์คำตาย
          1. ไม้แก้วกางกิ่งพิงกับกิ่งเกด
          2. ฝูงโนเรศขันขานประสานเสียง
          3. น้ำตาคลอท้ออกเห็นนกเรียง
          4. เหมือนเรียมเคียงร่วมคู่เมื่ออยู่เรือน
เฉลยข้อ 4 แนวคิด
          ข้อ 1 พยางค์คำตาย คือ กับ เกด
          ข้อ 2 พยางค์คำตาย คือ เรศ ประ
          ข้อ 3 พยางค์คำตาย คือ อก นก
          ข้อ 4 ไม่มีพยางค์คำตาย
*********************************************
6. เสียงควบกล้ำในข้อใดไม่ปรากฏ ในระบบเสียงภาษาไทย
          1. บรั่นดี
          2. นิวเคลียส
          3. อิเควเตอร์
          4. เพนกวิน
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 บร เป็นเสียงควบคล้ำที่รับมาจากภาษาอังกฤษ ไทยไม่ได้มีใช้มาแต่ก่อน
          ข้อ 2 คล เป็นเสียงควบกล้ำที่มีใช้ในภาษาไทย เช่น คล้อย คลาดเคลื่อน
          ข้อ 3 คว เป็นเสียงควบกล้ำที่มีใช้ในภาษาไทย เช่น ความ ควัน
          ข้อ 4 กว เป็นเสียงควบกล้ำที่มีใช้ในภาษาไทย เช่น กวาง กวัก
**********************************************
7. ข้อความต่อไปนี้มีพยางค์ที่ปรากฏเสียงพยัญชนะท้ายกี่พยางค์ "มัวแต่พูดว่า "จะ จะ" อยู่นั่นเอง ทำไมไม่ลงมือเสียที"
          1. 7 พยางค์
          2. 8 พยางค์
          3. 9 พยางค์
          4. 10 พยางค์
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อความดังกล่าวมีพยางค์ที่ปรากฏเสียงพยัญชนะท้าย 7 พยางค์ คือ
          พูด มีเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์ คือ /ต/
          นั่น มีเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์ คือ /น/
          เอง, ลง มีเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์ คือ /ง/
          ทำ มีเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์ คือ /ม/
          ไม, ไม่ มีเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์ คือ /ย/
          (ทำ ประกอบด้วยพยัญชนะต้น ท มีเสียงสระอะ มี ม เป็นเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์
          ไม, ไม่ ประกอบด้วยพยัญชนะต้น ม มีเสียงสระอะ มี ย เป็นเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์ )
*********************************************
8. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบทั้ง 5 เสียง
          1. ประหยัดวันนี้สบายวันหน้า
          2. สมบัติเมาเดินเซถลาหัวทิ่ม
          3. หมึกแดงแผลงฤทธิ์ให้รสอร่อย
          4. จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 ประหยัดวันนี้สบายวันหน้า มีเสียงวรรณยุกต์ คือ
                   เอก เอก สามัญ ตรี เอก สามัญ สามัญ โท (ขาดเสียงจัตวา)
          ข้อ 2. สมบัติเมาเดินเซถลาหัวทิ่ม มีเสียงวรรณยุกต์ คือ
                   จัตวา เอก สามัญ สามัญ สามัญ เอก จัตวา จัตวา โท (ขาดเสียงตรี)
          ข้อ 3. หมึกแดงแผลงฤทธิ์ให้รสอร่อย มีเสียงวรรณยุกต์ คือ
                    เอก สามัญ จัตวา ตรี โท ตรี เอก เอก (มีเสียงวรรณยุกต์ครบทุกเสียง)
          ข้อ 4. จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ มีเสียงวรรณยุกต์ คือ
                    เอก โท สามัญ สามัญ ตรี ตรี โท เอก สามัญ (ขาดเสียงจัตวา)
*******************************************************
9. ข้อความในข้อใดไม่ถูกต้อง
          1. ภาษาไทยมาตรฐานคือภาษาราชการ
          2. ภาษาไทยมีการออกเสียงหนักเสียงเบา
          3. ภาษาไทยรับคำจากภาษาอื่นในรูปศัพท์เดิมเป็นส่วนใหญ่
          4. คนไทยบางคนออกเสียงพยัญชนะบางเสียงตามเสียงภาษาอังกฤษ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1. ไทยเรามีภาษามาตรฐานใช้ เรียกกันว่า ภาษากลางบ้าง ภาษาราชการบ้าง
          ข้อ 2. การออกเสียงคำไทย โดยปกติไม่ได้ออกเสมอกันทุกพยางค์ บางพยางค์ออกเสียงหนัก บางพยางค์ออกเสียงเบา เช่น กิจการ ลงเสียงหนักที่กิจ และ การ
          ข้อ 3. ภาษาไทยเมื่อได้รับคำจากภาษาอื่นมาแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงรูปศัพท์เดิมใช้เพื่อให้เหมาะสม เช่น นำเอาคำภาษาบาลีสันสกฤตมาใช้ โดยเปลี่ยนสระ ได้แก่ ไวทย ไทยใช้ แพทย์
          ข้อ 4. คนไทยบางคนออกเสียงพยัญชนะบางเสียงตามเสียงภาษาอังกฤษ เช่น ออกเสียง /ช/ คล้ายเสียง /sh/ ในภาษาอังกฤษ
**************************************************
10. ข้อใดพยางค์แรกไม่มีเสียงพยัญชนะสะกด
          1. โฆษณา
          2. กรรมาธิการ
          3. วาตภัย
          4. ทิฐิ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล 
          ข้อ 1. โฆษณา อ่านว่า โคด-สะ-นา พยางค์แรกมีเสียงพยัญชนะสะกด ต
          ข้อ 2. กรรมาธิการ อ่านว่า กำ-มา-ทิ-กาน พยางค์แรกมีเสียงพยัญชนะสะกด ม
          ข้อ 3. วาตภัย อ่านว่า วา-ตะ-ไพ พยางค์แรกไม่มีเสียงพยัญชนะสะกด
          ข้อ 4. ทิฐิ อ่านว่า ทิด-ถิ พยางค์แรกมีเสียงพยัญชนะสะกด ต
*********************************************
11. ข้อใดไม่ถูกต้อง
          1. ภาษาทุกภาษามีลักษณะร่วมกันคือใช้เสียงสื่อความหมาย ประกอบด้วยหน่วยเล็กซึ่งรวมกันเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น
          2. วัจนภาษาคือถ้อยคำที่มนุษย์ใช้พูดเพื่อสื่อความหมาย ดังนั้นผู้ใช้ภาษาจึงต้องเป็นมนุษย์เท่านั้น และสิ่งที่สื่อความหมายก็คือเสียงพูด
          3. เสียงที่ใช้อยู่ในแต่ละภาษามีจำนวนไม่รู้จบ เราสามารถนำเสียงสระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์มาสร้างเป็นคำได้จำนวนมากเพื่อสื่อสารกับคนในสังคม
          4. การที่คนไทยเรียกละอองน้ำที่แข็งเย็นมีลักษณะเป็นปุยว่าหิมะ คนอังกฤษเรียกสโนว์ คนญี่ปุ่นเรียกยูคิ เป็นเรื่องของการตกลงกันของคนแต่ละกลุ่ม ไม่ได้เป็นเพราะความสัมพันธ์ของเสียงกับความหมายแต่อย่างใด
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 3 ไม่ถูกต้อง เพราะเสียงที่ใช้อยู่ในแต่ละภาษา ได้แก่ เสียงพยัญชนะ เสียงสระ ในแต่ละภาษามีจำนวนจำกัด เช่น ภาษาไทยมีเสียงพยัญชนะ 21 เสียง เสียงสระ 21 เสียง
********************************************
12. คำในข้อใดทุกคำมีทั้งความหมายโดยตรงและความหมายเชิงอุปมา
          1. ตกเบ็ด ลอยแพ ไหว้ผี เอียงซ้าย
          2. จับตา ลอกคราบ นิ้วก้อย จับตาย
          3. ติดตา ลายคราม ขึ้นหิ้ง จับเข่า
          4. ปากน้ำ ตัดต่อ ร้อนตัว ตกข่าว
เฉลยข้อ 3 แนวคิด
          ข้อ 1 คำที่มีความหมายโดยตรงเพียงอย่างเดียว คือ ไหว้ผี
          ข้อ 2 คำที่มีความหมายโดยตรงเพียงอย่างเดียว คือ นิ้วก้อย
          ข้อ 3 ติดตา หมายถึง ดูใกล้ตา (ความหมายโดยตรง)
                             หมายถึง ยังรู้สึกนึกเห็นภาพนั้นอยู่ไม่รู้เลือน (ความหมายเชิงอุปมา)
                   ลายคราม หมายถึง เครื่องภาชนะกระเบื้องที่เขียนลายเป็นสีคราม (ความหมายโดยตรง)
                                   หมายถึง คนแก่ที่ยังมีค่ามีความสามารถ (ความหมายเชิงอุปมา)
                   ขึ้นหิ้ง หมายถึง นำของไปวางไว้บนหิ้ง (ความหมายโดยตรง)
                              หมายถึง เป็นที่รักโปรดปราน (ความหมายเชิงอุปมา)
                   จับเข่า หมายถึง จับหัวเข่า (ความหมายโดยตรง)
                              หมายถึง พูดทำความเข้าใจกัน (ความหมายเชิงอุปมา)
           ข้อ 4 คำที่มีความหมายโดยตรงเพียงอย่างเดียว คือ ปากน้ำ
**********************************************
13. ข้อความต่อไปนี้มีคำประสมกี่คำ
สมศักดิ์เป็นหัวหน้าในสำนักงาน เขามีเพื่อนร่วมงานอีก 4 คน เวลาคนอื่นไม่อยู่สมศักดิ์จะต้องยืนโรงคอยรับลูกค้า
          1. 6 คำ
          2. 5 คำ
          3. 4 คำ
          4. 3 คำ
เฉลยข้อ 2 แนวคิด
          ข้อความนี้มีคำประสม คือ หัวหน้า สำนักงาน เพื่อนร่วมงาน ยืนโรง ลูกค้า
************************************************
14. ข้อใดมีกริยาเป็นคำประสมทั้งหมด
          1. คุณปู่นั่งเล่านิทาน หลาน ๆ ยิ้มแป้น
          2. เวลาแดดร้อนจัดต้องเดินกางร่ม
          3. เขาชอบออกตัวเพราะเกรงใจเพื่อน ๆ
          4. พ่อถ่ายรูปน้องขณะนอนหลับ
เฉลยข้อ 3 แนวคิด
          กริยาที่เป็นคำประสมคือ
          ออกตัว หมายถึง พูดกันตัวหรือแก้ตัวไว้ก่อน
          เกรงใจ หมายถึง ไม่อยากทำให้ผู้อื่นลำบากเดือดร้อน
******************************************************
15. ข้อใดเป็นคำซ้อนทุกคำ
          1. แนบชิด กับแกล้ม เก่งกาจ
          2. รีดไถ กล่าวหา เอาอย่าง
          3. อ้อยอิ่ง ป่าวร้อง โยนกลอง
          4. หมดสิ้น กดดัน ใหม่เอี่ยม
เฉลยข้อ 4 แนวคิด
          ข้อ 1 คำที่ไม่ใช่คำซ้อน คือ กับแกล้ม
          ข้อ 2 คำที่ไม่ใช่คำซ้อน คือ กล่าวหา, เอาอย่าง
          ข้อ 3 คำที่ไม่ใช่คำซ้อน คือ โยนกลอง
          ข้อ 4 ทุกคำเป็นคำซ้อน
************************************************
16. คำซ้อนในข้อใดประกอบขึ้นจากคำที่มีความหมายต่างกันเล็กน้อย
          1. ขวากหนาม ซ่อมแซม
          2. สักการบูชา เปลี่ยนแปลง
          3. คาดคะเน ซ่อนเร้น
          4. หยุดยั้ง อภิบาลรักษา
เฉลยข้อ 1 แนวคิด
          ขวากหนาม เกิดจากการนำ "ขวาก" กับ "หนาม" มาซ้อนกัน ซึ่งทั้งสองคำมีความหมายต่างกันเล็กน้อย
                   ขวาก หมายถึง ไม้หรือเหล็กเป็นต้นมีปลายแหลม
                   หนาม หมายถึง ส่วนแหลมที่งอกออกมาจากกิ่งไม้
          ซ่อมแซม เกิดจากการนำ "ซ่อม" กับ "แซม" มาซ้อนกัน ซึ่งทั้งสองคำมีความหมายต่างกันเล็กน้อย
                   ซ่อม หมายถึง ทำสิ่งชำรุดให้ดีขึ้น
                   แซม หมายถึง เอาสิ่งใหม่แทรกเข้าไปเพื่อแทนสิ่งที่ชำรุดให้ดีขึ้น
************************************************
17. ข้อใดเป็นคำสมาสทุกคำ
          1. เคหสถาน เพรงกรรม อากาศธาตุ
          2. วิบากกรรม นวโลหะ ชัยมงคล
          3. วีรกรรม ปฏิบัติการ อัญชุลี
          4. ทัศนวิสัย ผลบุญ เพลิงกาล
เฉลยข้อ 2 แนวคิด
          คำสมาส หมายถึง คำที่เกิดจากการสร้างคำในภาษาบาลีสันสกฤต ตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปด้วยวิธีการสมาส
          วิบากกรรม
                   วิบาก หมายถึง ผลแห่งกรรมดีกรรมชั่วอันทำไว้แต่ปางก่อน
                   กรรม หมายถึง การกระทำที่ส่งผลร้ายมายังปัจจุบัน
          นวโลหะ
                   นว หมายถึง เก้า
                   โลหะ หมายถึง ธาตุที่ถลุงจากแร่แล้ว
          ชัยมงคล
                   ชัย หมายถึง การชนะ
                   มงคล หมายถึง เหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ
****************************************************
18. ข้อความต่อไปนี้มีคำยืมมาจากภาษาบาลีสันสกฤตกี่คำ
          ไว้เป็นมหรสพซร้อง              สุขศานติ์
สำหรับราชสำราญ                            เริ่มรั้ง
บำเทิงหฤทัยบาน                              ประดิยุทธ์    นั้นนา
เสนอเนตรมนุษยตั้ง                           แต่หล้าเลอสรวง
          1. 6 คำ
          2. 7 คำ
          3. 8 คำ
          4. 9 คำ
เฉลยข้อ 3 แนวคิด
          คำยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต มี 8 คำ คือ มหรสพ สุข ศานติ์ ราช หฤทัย ประดิยุทธ์ เนตร มนุษย์
***********************************************
19. ข้อความตอนใดมีคำสมาส
(ก) สัญญาในที่นี้หมายถึงเอกสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย /
(ข) เซ็นสัญญาจะซื้อขายสินค้า สัญญากู้เงิน สัญญาเช่าบ้าน /
(ค) สัญญาต่าง ๆ เหล่านี้ทำขึ้นเป็นแบบฟอร์มเพื่อให้คู่สัญญาได้รับความสะดวก /
(ง) ผู้ทำสัญญาต้องลงลายมือชื่อกำกับไว้เพื่อให้สัญญามีผลสมบูรณ์
          1. (ก)
          2. (ข)
          3. (ค)
          4. (ง)
เฉลยข้อ 1 แนวคิด 
          เอกสาร เป็นคำสมาส
          เอก และ สาร เป็นคำภาษาบาลีสันสกฤต
***************************************************
20. คำซ้ำในข้อใดทำหน้าที่ในประโยคต่างกับข้ออื่น
          1. เห็นกันหลัด ๆ ก็ได้ข่าวว่าสมบัติตายเสียแล้ว
          2. เขาเดินกระทืบเท้าปัง ๆ เข้าไปในครัว
          3. เขามาถึงสนามบินทันเห็นเครื่องบินออกไปลิบ ๆ
          4. ผู้หญิงสวย ๆ ทุกวันนี้ทำงานนอกบ้าน
เฉลยข้อ 4 แนวคิด
          ข้อ 1, ข้อ 2 และข้อ 3 คำซ้ำ "หลัด ๆ" "ปัง ๆ" "ลิบ ๆ" ทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ ขยายกริยา
          ข้อ 4 คำซ้ำ "สวย ๆ" ทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ขยายนาม "ผู้หญิง"
*****************************************************
21. ข้อใดไม่มีคำที่มาจากภาษาเขมร
          1. จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความเห็นชอบ
          2. คุณปู่ทำกนกแก้วลายไทยงามไพจิตร
          3. ให้รื่นเริงสุขสำราญเหมือนดอกไม้บานยามเช้า
          4. เพลงลาวดำเนินทรายมีทำนองไพเราะอ่อนหวาน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 คำที่มาจากภาษาเขมร คือ โปรด
          ข้อ 2 ไม่มีคำที่มาจากภาษาเขมร กนก ไพจิตร เป็นคำที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต
          ข้อ 3 คำที่มาจากภาษาเขมร คือ สำราญ
          ข้อ 4 คำที่มาจากภาษาเขมร คือ ดำเนิน
*************************************************
ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 22-23
          ก. เธอจงถักทอฝันที่เธอ(หวัง)
          ข. หนึ่งชีวิตหนึ่งใจมอบ(ให้)เพียงเธอ
          ค. อุปสรรคขวากหนามทิ่มแทงอย่าง(โหดร้าย)
          ง. (เกิด)คำถามขึ้นในใจว่าทำไมผู้ใหญ่ถูกเสมอ
22. คำที่อยู่ในวงเล็บในข้อใดทำหน้าที่กริยาหลัก
          1. ข้อ ก
          2. ข้อ ข
          3. ข้อ ค
          4. ข้อ ง
เฉลยข้อ 4 แนวคิด
          "หวัง" "ให้" และ "โหดร้าย" ไม่ได้ทำหน้าที่กริยาหลัก "เกิด" ทำหน้าที่กริยาหลัก
*************************************************
23. ข้อใดเป็นประโยคที่ไม่มีบทกรรม
          1. ข้อ ก
          2. ข้อ ข
          3. ข้อ ค
          4. ข้อ ง
เฉลยข้อ 3 แนวคิด
          บทประธาน คือ อุปสรรคขวากหนาม บทกริยา คือ ทิ่มแทง
          บทขยายกริยา คือ อย่างโหดร้าย ประโยคไม่มีบทกรรม
*************************************************
24. ข้อใดใช้คำ "ถึง" ได้อย่างเหมาะสม
          1. อาจารย์ใหญ่กล่าวถึงผลงานของโรงเรียนในรอบปีที่ผ่านมาว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
          2. นายกสมาคมกล่าวขอบคุณและชื่นชมถึงแนวคิดของสมาชิกที่ได้เสนอในครั้งนี้
          3. การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ที่มีต่อชุมชน
          4. เมื่อรัฐบาลประกาศถึงเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้ต่างชาติมาลงทุนเพิ่มขึ้นในทันที
เฉลยข้อ 1 แนวคิด
          ข้อ 1 ใช้ "ถึง" ได้เหมาะสม
          ข้อ 2 และ ข้อ 3 ไม่ควรใช้ "ถึง"
          ข้อ 4 "ถึง" ควรใช้ "ว่า" แทน
************************************************
25. คำในข้อใดเติมช่องว่างของข้อความต่อไปนี้ได้เหมาะสมที่สุด
"แนวความคิดเรื่องพระพุทธศาสนาจะมีอายุ 5,000 ปี เป็นแนวคิดที่สำคัญ ............. แพร่หลาย ............. สังคมที่นับถือพุทธศาสนา ............. ที่มาของเรื่องนี้ ............. ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน"
          1. ซึ่ง    ต่อ    ดังนั้น     จึง
          2. และ     ของ     ถึงกระนั้น    ก็
          3. และ     ใน     อย่างไรก็ดี     ยัง
          4. ซึ่ง     ตาม      อย่างไรก็ดี     ก็
เฉลยข้อ 3 แนวคิด
          และ หมายถึง กับ
          ใน หมายถึง แห่ง, ของ
          อย่างไรก็ดี หมายถึง แม้กระนั้น
          ยัง หมายถึง คงอยู่
*********************************************
26. ข้อใดสะกดถูกทุกคำ
          1. ท่าทางชายคนนั้นดูลอกแล่กเลิกลั่กไม่น่าไว้ใจเลย
          2. เขาเดินลุกลี้ลุกลนมาหาลูกของเขา พูดละล่ำละลักแล้วก็หลบไป
          3. วันนี้ทำอะไรดูขลุกขลักไปหมดงานชิ้นนี้จะเสร็จอยู่รอมล่อก็ไม่เสร็จ
          4. รุ่งกับเรืองไม่ยอมลดลาวาศอก เถียงกันอยู่นานกว่าจะรอมชอมกันได้
เฉลยข้อ 2 แนวคิด
          ข้อ 1 คำที่สะกดผิด คือ ลอกแล่ก ที่ถูกต้อง คือ ลอกแลก
          ข้อ 2 สะกดถูกทุกคำ
          ข้อ 3 คำที่สะกดผิด คือ รอมล่อ ที่ถูกต้อง คือ รอมร่อ
          ข้อ 4 คำที่สะกดผิด คือ ลดลาวาศอก ที่ถูกต้อง คือ ลดราวาศอก
*********************************************
27. ข้อใดมีคำซ้ำที่แสดงความหมายต่างจากข้ออื่น
          1. แม่นวดแป้งแล้วปั้นเป็นลูกกลม ๆ
          2. แยก ๆ กันไปกินอาหารจะได้ออกรถเร็วขึ้น
          3. สมพรอยากย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงาน
          4. อายุเกิน 80 แล้วยังชอบใส่เสื้อผ้าสีสด ๆ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 คำซ้ำคือ กลม ๆ ซ้ำแล้วความหมายไม่เจาะจงเท่าคำเดิม
          ข้อ 2 คำซ้ำคือ แยก ๆ ซ้ำแล้วย้ำความหมายให้หนักแน่นยิ่งขึ้น
          ข้อ 3 คำซ้ำคือ ใกล้ ๆ ซ้ำแล้วความหมายไม่เจาะจงเท่าคำเดิม
          ข้อ 4 คำซ้ำคือ สด ๆ ซ้ำแล้วความหมายไม่เจาะจงเท่าคำเดิม
*********************************************
28. ข้อใดมีคำซ้อนมากที่สุด
          1. แต่หนาวใจยากแค้นนี้แสนเข็ญ
          2. ออกแออัดผู้คนอยู่ล้นหลาม
          3. ในแหล่งหล้าใครไม่มีเสมอเหมือน
          4. ไม่สมประกอบทรัพย์สินก็ขัดสน
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 คำซ้อน ได้แก่ ยากแค้น
          ข้อ 2 คำซ้อน ได้แก่ แออัด ผู้คน ล้นหลาม
          ข้อ 3 คำซ้อน ได้แก่ แหล่งหล้า เสมอเหมือน
          ข้อ 4 คำซ้อน ได้แก่ ทรัพย์สิน ขัดสน
*********************************************
29. ข้อใดมีคำประสม
          1. เห็นกิ่งกีดมีดพร้าเข้าราราน
          2. หลังคาใหญ่พื้นเล็กเป็นโลงผี
          3. ดูเหย้าเรือนหาเหมือนอย่างไทยไม่
          4. ถึงหนามกรานก็ไม่เจ็บเหมือนเหน็บแนม
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 มีดพร้า เป็นคำซ้อน
          ข้อ 2 หลังคา เป็นคำประสม
          ข้อ 3 เหย้าเรือน เป็นคำซ้อน
          ข้อ 4 เหน็บแนม เป็นคำซ้อน
*********************************************
30. ข้อใดไม่มีคำสมาส
          1. ทหารเป็นผู้ที่มีหน้าที่รบเพื่อปกป้องมาตุภูมิของตนไม่ให้ข้าศึกรุกราน
          2. ประชาชนส่งไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลยูโร 2000 เป็นจำนวนมาก
          3. ประธานในพิธีกล่าวคาถาอัญเชิญเทวดามาชุมนุมเพื่อเป็นมงคล
          4. ชีวเคมีเป็นวิชาวิทยาศาสตร์สาขาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของสิ่งมีชีวิต
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 มีคำสมาส คือ มาตุภูมิ
          ข้อ 2 มีคำสมาส คือ ไปรษณียบัตร
          ข้อ 3 ไม่มีคำสมาส
          ข้อ 4 มีคำสมาส คือ วิทยาศาสตร์
*********************************************
31. ข้อใดไม่มีคำพ้องความหมาย
          1. ไอยรา ราชสีห์ กุญชร
          2. ลำธาร ชลาสินธุ์ มัจฉา
          3. เทเวศร์ อัจฉรา สุรารักษ์
          4. สิงขร เวหาสน์ วนาดร
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 มีคำพ้องความหมาย คือ ไอยรา กุญชร แปลว่า ช้าง
          ข้อ 2 มีคำพ้องความหมาย คือ ลำธาร ชลาสินธุ์ แปลว่า น้ำ
          ข้อ 3 มีคำพ้องความหมาย คือ เทเวศร์ สุรารักษ์ แปลว่า เทวดา
          ข้อ 4 ไม่มีคำพ้องความหมาย
                   สิงขร แปลว่า ภูเขา
                   เวหาสน์ แปลว่า ท้องฟ้า
                  วนาดร แปลว่า ป่า
*********************************************
32. ข้อใดมีคำที่ไม่ได้ใช้ในความหมายเชิงอุปมา
          1. หมดตัว ยกเครื่อง ขนแมว
          2. ลอบกัด ตาบอด เปิดท้าย
          3. ไข่ดาว ขมขื่น ลายแทง
          4. ปลากรอบ หวานเย็น เด็กดอง
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          คำที่ไม่มีความหมายเชิงอุปมา คือ ปลากรอบ
          ปลา หมายถึง สัตว์ชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ในน้ำ
          กรอบ หมายถึง แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ง่าย
*********************************************
33. ข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนคำว่า "ชันษา"
          1. กัณหา
          2. มารยา
          3. ปริศนา
          4. จินตหรา
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ชันษา อ่านว่า ชัน-นะ-สา
          ข้อ 1. กัณหา อ่านว่า กัน-หา
          ข้อ 2. มารยา อ่านว่า มาน-ยา
          ข้อ 3. ปริศนา อ่านว่า ปริด-สะ-หนา
          ข้อ 4. จินตหรา อ่านว่า จิน-ตะ-หรา
          ชันษา มีโครงสร้างพยางค์เหมือนคำว่า จินตหรา ดังนี้
          ชัน/จิน ประกอบด้วยพยัญชนะต้น สระเสียงสั้น วรรณยุกต์เสียงสามัญ และพยัญชนะสะกด (แม่กน)
          นะ/ตะ ประกอบด้วยพยัญชนะต้น สระเสียงสั้น นะมีเสียงวรรณยุกต์ตรี ตะ มีเสียงวรรณยุกต์เอก
          สา/หรา ประกอบด้วยพยัญชนะต้น สระเสียงยาว วรรณยุกต์เสียงจัตวา
*********************************************
34. คำในข้อใดออกเสียงควบกล้ำทุกคำ
          1. กลวง แปรก ควาย ตรอง หลั่น
          2. แขวน กลัว แตร กริช ครุย
          3. สรวล ครบ กล้า ปรัก ปลาต
          4. เกล็ด คลาด หวาด ปลาย กราบ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1 คำที่ไม่ออกเสียงควบกล้ำ ได้แก่ แปรก (ปะ-แหรก) หลั่น (หลั่น)
          ข้อ 2 ทุกคำออกเสียงควบกล้ำ
          ข้อ 3 คำที่ไม่ออกเสียงควบกล้ำ ได้แก่ สรวล (สวน) ปลาต (ปะ-ลาด)
          ข้อ 4 คำที่ไม่ออกเสียงควบกล้ำ ได้แก่ หวาด (หวาด)
*********************************************
35. ข้อใดเป็นคำประสมทุกคำ
          1. กรรมเก่า น้ำเน่า สาดโคลน สั่นคลอน
          2. แกะดำ นั่งร้าน วางมวย ผุยผง
          3. เล่นตัว วางมือ หมกเม็ด แพแตก
          4. จุดจบ สับหลีก เลวทราม ลายคราม
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          คำประสม หมายถึง คำที่เกิดจากการนำคำมูลตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปมาประสมกัน เกิดเป็นคำที่มีความหมายใหม่ แต่อาจมีเค้าความหมายเดิม
          ข้อ 1 มีคำซ้อน 1 คำ ได้แก่ สั่นคลอน
          ข้อ 2 มีคำซ้อน 1 คำ ได้แก่ ผุยผง
          ข้อ 3 เป็นคำประสมทุกคำ
          ข้อ 4 มีคำซ้อน 1 คำ ได้แก่ เลวทราม
*********************************************
36. ข้อใดเป็นคำสมาสทุกคำ
          1. ขัณฑสีมา สูตรคูณ อุโบสถศีล บายศรี
          2. โอษฐภัย กลเม็ด ประภาคาร องคาพยพ
          3. ทิพยจักษุ หิรัญบัตร เมรุมาศ ภูมิลำเนา
          4. รัตติกาล วัฏจักร พิพิธพร ทศนิยม
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          คำสมาส หมายถึง คำที่เกิดจากการสร้างคำในภาษาบาลีสันสกฤต ตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปด้วยวิธีการสมาส
          ข้อ 1 คำที่ไม่ใช่คำสมาส ได้แก่ บายศรี
          ข้อ 2 คำที่ไม่ใช่คำสมาส ได้แก่ กลเม็ด
          ข้อ 3 คำที่ไม่ใช่คำสมาส ได้แก่ ภูมิลำเนา
          ข้อ 4 เป็นคำสมาสทุกคำ
*********************************************
37. ข้อใดมีจำนวนคำพ้องความหมายน้อยที่สุด
          1. ด้วยสองเยาวยุพาพาลกุมารกุมารีศรีดรุณราช
          2. เที่ยวสืบเสาะแสวงทุกแห่งหามาพานพบ
          3. นวดปั้นคั้นหัตถบาทปรามาสทั่วพระอินทรีย์สองขัตติยโปดก
          4. ผกากุสุมมาลีละอวลอบหอมตรลบสุคนธกำจร
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 มีคำพ้องความหมายดังนี้ เยาว ยุพาพาล กุมาร กุมารี ดรุณ หมายถึง เด็ก รุ่น
          ข้อ 2 มีคำพ้องความหมายดังนี้ สืบ เสาะ แสวง หา หมายถึง หา พาน พบ หมายถึง พบ
          ข้อ 3 มีคำพ้องความหมายดังนี้ นวด ปั้น คั้น ปรามาส หมายถึง กด บีบ จับต้อง
          ข้อ 4 มีคำพ้องความหมายดังนี้ ผกา กุสุม มาลี หมายถึง ดอกไม้ อวลอบ ตรลบ กำจร หมายถึง ตลบ ฟุ้ง, หอม สุคนธ หมายถึง กลิ่นหอม
*********************************************
38. ข้อใดเป็นคำซ้อนทุกคำ
          1. กล้ำกลืน เคยตัว ติดตาม
          2. อวดอ้าง หมายมาด เคลื่อนคล้อย
          3. พรั่งพร้อม หง่างเหง่ง วังเวง
          4. ร่อยหรอ โศกศัลย์ ตกยาก
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำซ้อน หมายถึง คำที่เกิดจากการนำคำที่มีความหมายเหมือนกันหรือมีความหมายใกล้เคียงกัน หรือมีความหมายตรงข้ามกันมาประกอบกัน
          ข้อ 1 คำที่ไม่ใช่คำซ้อน ได้แก่ เคยตัว
          ข้อ 2 ทุกคำเป็นคำซ้อน
          ข้อ 3 คำที่ไม่ใช่คำซ้อน ได้แก่ วังเวง
          ข้อ 4 คำที่ไม่ใช่คำซ้อน ได้แก่ ตกยาก
*********************************************
39. การใช้คำซ้ำในข้อใดต่างจากข้ออื่น
          1. น้ำพระทัยเธอข่อน ๆ คิดไม่ขาด
          2. น้ำพระชลนัยน์ไหลลงหลั่ง ๆ
          3. พุ่มไม้ครึ้มเป็นเงา ๆ ชะโงกเงื้อม
          4. ฝูงสกุณาออกหากินบินเกริ่นก้องร้องอยู่แจ้ว ๆ
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 ข่อน ๆ แปลว่า ปั่นป่วน ไม่สบายใจ
          ข้อ 2 หลั่ง ๆ แปลว่า ไหลลงไม่ขาดสาย
          ข้อ 3 เงา ๆ แปลว่า ราง ๆ
          ข้อ 4 แจ้ว ๆ แปลว่า มีเสียงดังติดกันเป็นระยะ
ข้อ 2 - ข้อ 4 คำซ้ำแสดงความต่อเนื่องกัน
*********************************************
40. "ขัด" ในข้อใดมีความหมายต่างจากข้ออื่น
          1. เมื่อใส่เสื้อควรขัดกระดุมให้เรียบร้อย
          2. คุณตาขัดมีดไว้ข้างฝาเมื่อเลิกใช้แล้ว
          3. เรือนไทยสมัยโบราณเขาจะใช้ไม้ขัดประตู
          4. แม่ครัวขัดกระทะแล้วนำไปผึ่งแดด
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1, ข้อ 2 และ ข้อ 3 ขัด แปลว่า ให้ติดขวางไว้ไม่ให้หลุดออกมา
          ข้อ 4 ขัด แปลว่า ถูให้เกลี้ยง
*********************************************
41. ข้อใดเป็นคำประสมทุกคำ
          1. ของขลัง ชุมนุม เรือด่วน สามขุม
          2. เรียงเบอร์ ข้าวสวย มูมมาม เหล็กดัด
          3. มือถือ เครื่องบิน ต้มเค็ม รูปภาพ
          4. แม่พิมพ์ เครื่องคิดเลข แกงไก่ ขายหน้า
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          คำประสม คือ คำที่เกิดจากการนำคำมูลตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปมาประสมกัน เกิดเป็นคำที่มีความหมายใหม่ แต่อาจมีเค้าความหมายเดิม
          ข้อ 1 คำที่ไม่ใช่คำประสม คือ ชุมนุม
          ข้อ 2 คำที่ไม่ใช่คำประสม คือ มูมมาม
          ข้อ 3 คำที่ไม่ใช่คำประสม คือ รูปภาพ
          ข้อ 4 เป็นคำประสมทุกคำ
                  แม่พิมพ์ หมายถึง สิ่งที่เป็นต้นแบบ
                 โดยปริยาย หมายถึง คนที่เป็นแบบอย่าง
                 เครื่องคิดเลข หมายถึง อุปกรณ์ชนิดหนึ่ง ใช้คิดคำนวณเลข
                 แกงไก่ หมายถึง แกงชนิดหนึ่ง
                 ขายหน้า หมายถึง อับอาย
*********************************************
42. ข้อใดเป็นได้ทั้งกลุ่มคำและคำประสม
          1. เก็บอารมณ์
          2. เขียนหนังสือ
          3. ร้อยดอกไม้
          4. ทอดสะพาน
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1, ข้อ 2 และข้อ 3 เป็นได้เฉพาะกลุ่มคำ
          ข้อ 4 ทอดสะพาน เป็นได้ทั้งกลุ่มคำและคำประสม
                   กลุ่มคำ "ทอดสะพาน" หมายถึง พาดสะพานจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
                   คำประสม "ทอดสะพาน" หมายถึง แสดงกิริยาท่าทางเป็นทำนองอยากติดต่อด้วย
*********************************************
43. ข้อใดเป็นคำสมาสที่มีการสนธิทุกคำ
          1. นเรศวร พุทโธวาท ราชูปโภค คชาภรณ์
          2. มานุษยวิทยา สุริโยทัย วิเทโศบาย อิทธิฤทธิ์
          3. มัจจุราช ศาสนจักร ภัตตาคาร ราชินูปถัมภ์
          4. ฑูตานุฑูต สมาคม รัฐมนตรี วิทยาลัย
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          คำสมาสที่มีการสนธิ คือ คำสมาสที่มีการเชื่อมเสียงให้กลมกลืนกัน เป็นวิธีสร้างคำวิธีหนึ่งในภาษาบาลีสันสกฤต
          นเรศวร    =  นร + อิศวร
          พุทโธวาท    =  พุทธ + โอวาท
          ราชูปโภค    =  ราช + อุปโภค
          คชาภรณ์    =  คช + อาภรณ์
*********************************************
44. ข้อใดเป็นคำซ้อนทุกคำ
          1. เหตุการณ์ มิตรสหาย โกรธเคือง พบพาน
          2. เงียบสงัด เรืองรอง ขมีขมัน ห้องหอ
          3. สูญเสีย พักผ่อน สัตย์ซื่อ วิธีการ
          4. ปล่อยวาง ลำน้ำ เผ่นโผน นับถือ
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          คำซ้อน หมายถึง คำที่เกิดจากการนำคำที่มีความหมายเหมือนกัน หรือมีความหมายใกล้เคียงกัน หรือมีความหมายตรงข้ามกันมาประกอบกัน
          เหตุการณ์ มิตรสหาย โกรธเคือง พบพาน เป็นคำซ้อนทุกคำ
          เหตุ - เค้ามูล, เรื่อง      การณ์ - เหตุ, เค้า, มูล
          มิตร - เพื่อน               สหาย - เพื่อน
          โกรธ - ไม่พอใจอย่างรุนแรง        เคือง - ไม่พอใจเพราะชักรู้สึกโกรธ
          พบ - เห็น, ประสบ        พาน - พบปะ
*********************************************
45. ข้อใดมีคำซ้ำที่แสดงความหมายต่างจากข้ออื่น
          1. ฝนตกพรำ ๆ ทั้งคืน
          2. ป้าของสมชาติชอบพูดซ้ำ ๆ
          3. สมศรีชอบใช้ดินสอให้หมดไปเป็นแท่ง ๆ
          4. สมชายร่ำ ๆ จะขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          คำซ้ำในข้อ 1, ข้อ 2 และข้อ 4 คือ พรำ ๆ ซ้ำ ๆ ร่ำ ๆ เป็นคำซ้ำที่มีความหมายว่าทำกิริยานั้นซ้ำต่อเนื่องกัน คำซ้ำในข้อ 3 แท่ง ๆ เป็นคำซ้ำที่มีความหมายแยกเป็นส่วน ๆ
*********************************************
46. ข้อใดใช้คำเชื่อม ไม่ถูกต้อง
          1. แม่ทำกับข้าวแปลก ๆ ให้เรากินเสมอ
          2. เขาเห็นกับตาว่าเธอหยิบของใส่กระเป๋า
          3. แม่เห็นแก่ลูกเพราะมาอยู่กับลูกตอนสอบ
          4. เขารีบกลับจากต่างประเทศเพื่อจัดงานวันเกิดให้แม่
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          "เพราะ" เป็นคำเชื่อมที่ใช้แสดงเหตุผล ข้อความหน้าคำว่า "เพราะ" จะเป็นข้อสรุป ข้อความที่ตามหลังคำ "เพราะ" เป็นข้อสนับสนุน
          "แม่เห็นแก่ลูกเพราะมาอยู่กับลูกตอนสอบ" เนื้อความไม่ได้อยู่ในลักษณะที่กล่าวแล้ว ดังนั้นควรใช้คำว่า "จึง" ที่เป็นคำเชื่อมแสดงเหตุผลแทน เป็น "แม่เห็นแก่ลูก (ข้อสนับสนุน) / จึงมาอยู่กับลูกตอนสอบ" (ข้อสรุป)
*********************************************
47. ข้อความต่อไปนี้มีคำเป็นและคำตายกี่คำ
      "เกศาปลายงอนงามทรง        เอวองค์สารพัดไม่ขัดตา"
          1. คำเป็น 12 คำ   คำตาย 2 คำ
          2. คำเป็น 11 คำ   คำตาย 3 คำ
          3. คำเป็น 10 คำ   คำตาย 4 คำ
          4. คำเป็น  9 คำ    คำตาย 5 คำ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำเป็น คือ พยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา หรือพยางค์ที่มีตัวสะกดในมาตรา กง กน กม เกย เกอว
          คำตาย คือ พยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา หรือพยางค์ที่มีตัวสะกดในมาตรา กก กด กบ
          "เกศาปลายงอนงามทรง" ข้อความนี้เป็นคำเป็นทั้งหมด (คำเป็น 6 คำ)
          "เอวองค์สารพัดไม่ขัดตา" ข้อความนี้มีคำเป็นคำตายเรียงตามลำดับดังนี้ คำเป็น คำเป็น คำเป็น คำตาย คำตาย คำเป็น คำตาย คำเป็น (คำเป็น 5 คำ คำตาย 3 คำ)
*********************************************
48. ข้อใดไม่มีคำภาษาต่างประเทศ
          1. ถึงทวารโรงหมอก็รอรถ        พร้อมกันหมดเดินเรียงเคียงไสว
          2. ยุรยาตรเยื้องย่างเข้าข้างใน        ตึกนั้นใหญ่กว้างรีสูงสี่ชั้น
          3. มีกระดูกคนตายทั้งชายหญิง        ประหลาดจริงหลากล้ำทำขันขัน
          4. อีกกระดูกคนโบราณที่นานครัน        ดูยืนยันเหมือนยังเปรตสังเวชใจ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 มีคำภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ทวาร รถ
          ข้อ 2 มีคำภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ยุรยาตร
          ข้อ 3 ไม่มีคำภาษาต่างประเทศ
          ข้อ 4 มีคำภาษาต่างประเทศ ได้แก่ เปรต สังเวช
*********************************************
49. ข้อใดมีคำชนิดเดียวกับคำที่พิมพ์ตัวหนาในประโยค "ฉันจะซื้อหนังสือสามเล่ม"
          1. เขาสั่งก๋วยเตี๋ยวอีกชาม
          2. ฉันนั่งอ่านหนังสือคนเดียว
          3. แม่มีลูกคนที่สองเป็นชาย
          4. ในสวนมีต้นมะพร้าวหลายต้น
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          "ฉันจะซื้อหนังสือสามเล่ม" "สาม" ในที่นี้เป็นคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับ (บอกจำนวนเลข)
          "ฉันนั่งอ่านหนังสือคนเดียว" "เดียว" ในที่นี้เป็นคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับ ซึ่งเป็นคำวิเศษณ์ชนิดเดียวกันกับ "สาม" คือ ประมาณวิเศษณ์ซึ่งบอกจำนวนนับ
*********************************************
50. ข้อใดใช้คำบุพบทไม่ถูกต้อง
          1. เด็กจะถูกผลักดันเข้าสู่ระบบการศึกษาด้วยวิธีการแข่งขัน
          2. เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบรรทัดฐานของสังคมจากโรงเรียน
          3. สถาบันที่มีอิทธิพลกับความคิดของเด็กมากก็คือโรงเรียน
          4. รางวัลสำหรับผู้ชนะการแข่งขันก็คือการได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ต้องการ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          คำบุพบทที่ใช้ไม่ถูกต้องคือ "กับ" ควรใช้ "ต่อ" "สถาบันที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเด็กมากก็คือโรงเรียน"
*********************************************
51. ข้อใดใช้คำผิดหน้าที่
          1. เด็กมักมีปฏิกิริยาต่อการห้าม
          2. เขาใช้ปฏิภาณในการตอบคำถาม
          3. ปฏิปักษ์ของความก้าวหน้าคือความเกียจคร้าน
          4. เขาทั้งสองมีปฏิญาณว่าจะซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ปฏิญาณ เป็นคำกริยา หมายถึง ให้คำมั่นสัญญา โดยมากมักเป็นไปตามแบบพิธี ประโยคนี้นำมาใช้ผิดหน้าที่ ที่ถูกต้องควรใช้ว่า เขาทั้งสองปฏิญาณว่าจะซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป
*********************************************
52. ข้อใดใช้คำกริยาได้ถูกต้อง
          1. ถ้าเขาไม่จำกัดตัวเองจากคนกลุ่มอื่น เขาก็จะเป็นที่รู้จักมากกว่านี้
          2. เขาทำงานหนักมาก ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว ในที่สุดก็ต้องเลิกรากับภรรยา
          3. นายช่างไม่ถือตัวเลย ช่วงพักกลางวันเขามักจะร่วมวงรับประทานอาหารกับคนงาน
          4. นักท่องเที่ยวประทับใจที่เครื่องประดับของไทยเราราคาถูกแต่มีคุณภาพต่ำ
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 คำกริยาที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ จำกัด ควรใช้ "แยก"
          ข้อ 2 คำกริยาที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ เลิกรา ควรใช้ "เลิก"
          ข้อ 3 ใช้คำกริยาได้ถูกต้อง ถือตัว หมายถึง ไว้ตัวไม่ยอมลดตัวเพราะหยิ่งในศักดิ์หรือฐานะของตน
          ข้อ 4 คำกริยาที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ ประทับใจ ใช้ไม่เหมาะกับบริบท "ราคาถูกแต่มีคุณภาพต่ำ"
*********************************************
53. ข้อใดใช้คำเชื่อมไม่ถูกต้องเหมาะสม
          1. ถึงแม้เราจะพิถีพิถันล้างจานจนสะอาดเพียงใดก็อาจมีแบคทีเรียหลงเหลืออยู่
          2. คนที่มีความเครียดมักจะปวดหัวบ่อย ๆ บางคนปวดหัวข้างเดียวหรือที่เรียกกันว่าไมเกรน
          3. ถ้าใช้น้ำบาดาลมากเกินไปอาจเกิดปัญหาหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดินทรุด และน้ำเค็มหนุน
          4. การประกอบอาชีพสุจริต การรับผิดชอบต่อครอบครัว ตลอดจนการทำประโยชน์ต่อสังคมล้วนเป็นคุณสมบัติที่น่ายกย่อง
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ประโยคนี้ใช้คำเชื่อมไม่เหมาะสมคือ "และ" ควรใช้ "หรือ" คำบอกความให้กำหนดเอา
*********************************************
54. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
          1. รถแล่นมาดี ๆ ก็พลิกคว่ำ
          2. งูตัวจ้อยเกาะกิ่งไม้ที่ริมรั้ว
          3. แม่น้ำสายยาวไหลเซาะตลิ่งพังทลาย
          4. คุณตานัดรำมวยจีนกับเพื่อน ๆ ทุกวันเสาร์
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ภาคประธาน คือ งูตัวจ้อย
          ภาคแสดง คือ เกาะกิ่งไม้ที่ริมรั้ว
*********************************************
55. ข้อใดเป็นประโยคความซ้อน
          1. คนแก่ที่มีเงินไม่เคยขาดคนดูแล
          2. หลานสาววิ่งปร๋อไปหาคุณยายทันที
          3. สุดาไปซื้อของที่ตลาดกับคุณยายเสมอ
          4. แมวขโมยกระโจนขึ้นหลังคาอย่างรวดเร็ว
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ประโยคหลัก คือ คนแก่ไม่ขาดคนดูแล
          ประโยคย่อย คือ (คนแก่) มีเงิน
          ตัวเชื่อม คือ ที่
*********************************************
56. ข้อใดวางส่วนขยายผิดที่
          1. การตั้งครรภ์โดยไม่ทราบว่าเป็นเบาหวานมาก่อนมีปัจจัยความเสี่ยงอยู่หลายอย่าง
          2. สตรีมีครรภ์และเป็นเบาหวานมีความเสี่ยงที่จะแท้งหรือมีลูกพิกลพิการมาก
          3. การควบคุมน้ำตาลอย่างจริงจังช่วยทำให้คนไข้เบาหวานตั้งครรภ์ได้เป็นปกติมากขึ้น
          4. ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะกรรมพันธุ์และความอ้วนต้องให้สูติแพทย์ตรวจเบาหวานอย่างละเอียด
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          คำว่า "มาก" วางไว้หลังข้อความ "มีลูกพิกลพิการ" จึงขยาย "ลูก" หมายความว่า ลูกพิกลพิการมาก ซึ่งแท้จริงแล้วหมายถึง สตรีที่มีครรภ์และเป็นเบาหวานนั้นมีความเสี่ยงมากที่จะมีลูกพิการ ดังนั้น ข้อความนี้จึงควรเป็นดังนี้ "สตรีมีครรภ์และเป็นเบาหวานมีความเสี่ยงมากที่จะแท้งหรือมีลูกพิกลพิการ"
*********************************************
57. ข้อความใดเป็นประโยคสมบูรณ์
          1. น้ำมันเครื่องสูตรสังเคราะห์เพื่อปิคอัพสมรรถนะสูง
          2. พลิ้วสวยสมบูรณ์แบบด้วยกระเบื้องหลังคาโกลด์
          3. แป้งเค้กอณูละเอียดอำพรางริ้วรอยได้แนบเนียน
          4. มาตรฐานประกันภัยที่ก้าวไกลระดับโลก
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ภาคประธาน คือ แป้งเค้กอณูละเอียด
          ภาคแสดง คือ อำพรางริ้วรอยได้แนบเนียน
*********************************************
58. ประโยคใดเรียงลำดับคำได้ถูกต้อง
          1. พ่อครัวทำต้มโคล้งปลาช่อนเมื่อวานนี้อร่อยมาก
          2. ฝนดาวตกครั้งนี้มีจำนวนไม่มากอย่างที่คิด
          3. ในห้องแสดงนิทรรศการมีศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชรูปจำลองตั้งไว้ให้ชม
          4. บัณฑิตใหม่กำลังถ่ายรูปก่อนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า
เฉลยข้อ 2 เหตุผล 
          ข้อ 1 ควรเรียงว่า เมื่อวานนี้พ่อครัวต้มโคล้งปลาช่อนอร่อยมาก
          ข้อ 2 เรียงลำดับคำได้ถูกต้อง
          ข้อ 3 ควรเรียงว่า ในห้องแสดงนิทรรศการมีศิลาจารึกรูปจำลองของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชตั้งไว้ให้ชม
          ข้อ 4 ควรเรียงว่า บัณฑิตใหม่กำลังถ่ายรูปในบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าก่อนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
*********************************************
59. ข้อใดมีโครงสร้างของประโยคแบบ กรรม-ประธาน-กริยา
          1. มะเร็งบางชนิดรักษาให้หายได้
          2. หนังสือพิมพ์ฉบับเช้าเขามักอ่านเวลากินกาแฟ
          3. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก่อสร้างสำเร็จแล้วอย่างงดงาม
          4. ไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดใหม่ระบาดทำให้ข้อมูลเสียหาย
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          กรรม คือ หนังสือพิมพ์
          ประธาน คือ เขา
          กริยา คือ อ่าน
*********************************************
60. ข้อใดเป็นประโยคกรรม
          1. ประโยชน์ที่เกิดจากโครงการนี้มีผลดีต่อสังคมในระยะยาว
          2. เพราะแม่สูบบุหรี่จัดลูกที่คลอดออกมาจึงมีขนาดเล็กกว่าปกติ
          3. คนที่เป็นเบาหวานมีโอกาสติดเชื้อทางกรวยไตมากกว่าคนทั่วไป
          4. อาคารผู้ป่วยนอกหลังนี้สร้างเสร็จภายในห้าเดือนด้วยเงินบริจาคของประชาชน
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ประโยคกรรม คือ ประโยคที่เอากรรมไว้ข้างหน้า
          ข้อความในข้อ 4 นำเอากรรมมาขึ้นต้นประโยค คือ "อาคารผู้ป่วยนอก" และละประธานไว้
*********************************************
61. ข้อใดมีโครงสร้างเช่นเดียวกับประโยค "ดอกบัวตองบานสะพรั่งชูไสวทั่วท้องทุ่ง"
          1. พวกเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันเต็มสนามกีฬา
          2. ฟ้าคะนองผ่าเปรี้ยงลงที่ตึกหลังสูง
          3. เจ้าด่างครางหงิง ๆ วิ่งไปมาตามถนน
          4. แม่ครัวนอนเหยียดยาวกลางห้องครัว
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          "ดอกบัวตองบานสะพรั่งชูไสวทั่วท้องทุ่ง" มีโครงสร้าง คือ
          ประธาน + กริยา + ขยายกริยา + กริยา + ขยายกริยา + ขยายกริยา (บอกสถานที่)
          "เจ้าด่างครางหงิง ๆ วิ่งไปมาตามถนน" มีโครงสร้าง คือ
          ประธาน + กริยา + ขยายกริยา + กริยา + ขยายกริยา + ขยายกริยา (บอกสถานที่)
*********************************************
62. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
          1. เจ้าหมาน้อยไม่สบายร้องครางทั้งวัน
          2. หลานสาวตัวน้อยเดินไปโรงเรียนใกล้บ้าน
          3. คนไทยแทบทุกคนรู้จักนักชกเหรียญทองคนนั้น
          4. สมบัติดูหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายมาหลายเดือน
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ประโยคความรวม คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียว ตั้งแต่ 2 ประโยคขึ้นไปไว้ด้วยกัน มีสันธานเป็นเครื่องเชื่อม
          ข้อ 1 เป็นประโยคความรวมที่ประกอบด้วยประโยคความเดียว 2 ประโยค คือ เจ้าหมาน้อยไม่สบาย และเจ้าหมาน้อยร้องครางทั้งวัน
          ข้อ 2 เป็นประโยคความเดียว ภาคประธาน คือ หลานสาวตัวน้อย ภาคแสดง คือ เดินไปโรงเรียนใกล้บ้าน
          ข้อ 3 เป็นประโยคความเดียว ภาคประธาน คือ คนไทยแทบทุกคน ภาคแสดง คือ รู้จักนักชกเหรียญทองคนนั้น
          ข้อ 4 เป็นประโยคความเดียว ภาคประธาน คือ สมบัติ ภาคแสดง คือ ดูหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายมาหลายเดือน
*********************************************
63. ข้อใดเป็นประโยคความซ้อน
          1. ฉันพบอาจารย์ของลูกที่ตลาดเสมอ
          2. เราไปซื้อผลไม้ที่ร้านเจ้าประจำ
          3. มะม่วงต้นที่อยู่หลังครัวมีลูกหลายใบ
          4. กล้วยไม้ที่คาคบออกดอกแล้ว
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ประโยคความซ้อน คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคที่มีเนื้อความสำคัญ และประโยคเล็กที่ช่วยเสริมประโยคหลัก
          ข้อ 1, ข้อ 2 และ ข้อ 4 ไม่ใช่ประโยคความซ้อน "ที่" เป็นบุพบท แสดงสถานที่
          ข้อ 3 เป็นประโยคความซ้อน ประโยคหลัก คือ มะม่วงมีลูกหลายใบ ประโยคเล็ก คือ (มะม่วง) อยู่หลังครัว "ที่" เป็นประพันธสรรพนาม
*********************************************
64. ข้อใดเป็นประโยคที่สมบูรณ์
          1. หนึ่งในบรรดาสารพิษหรือสารเคมีที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตภาชนะบรรจุอาหาร
          2. เมื่อท่านทราบแล้วว่าอันตรายจากการบริโภคอาหารที่ใส่ถุงกระดาษหนังสือพิมพ์มีมากเพียงใด
          3. องค์การอนามัยโลกซึ่งชี้ปัญหาการขาดแคลนธาตุไอโอดีนว่ามักจะมีในประชากรที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขา
          4. การที่จะขจัดโรคขาดสารอาหารในเด็กให้หมดไปจำเป็นต้องรณรงค์ให้เฝ้าระวังโภชนาการของเด็กเป็นประจำ
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1, ข้อ 2 และ ข้อ 3 ไม่มีภาคแสดง จึงไม่เป็นประโยค
          ข้อ 4 เป็นประโยคที่สมบูรณ์ ภาคประธาน คือ การที่จะขจัดโรคขาดสารอาหารในเด็กให้หมดไป ภาคแสดง คือ จำเป็นต้องรณรงค์ให้เฝ้าระวังโภชนาการของเด็กเป็นประจำ
*********************************************
ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 65-67
      "(1) ประชากรคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของประเทศ (2) เราต้องสูญเสียประชากรจำนวนหนึ่งให้แก่ยาเสพติด (3) คนเหล่านี้ไม่มีเรี่ยวแรงทำงาน ทั้งยังก่ออาชญากรรมและแพร่โรคเอดส์ไปพร้อมกัน (4) คิดดูเถิดว่าประเทศจะประสบความวิบัติสักเท่าใด"
65. ข้อความตอนใดมีการละประธานของประโยค
          1. ตอนที่ (1)
          2. ตอนที่ (2)
          3. ตอนที่ (3)
          4. ตอนที่ (4)
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 ประธานของประโยค คือ ประชากร
          ข้อ 2 ประธานของประโยค คือ เรา
          ข้อ 3 ประธานของประโยค คือ คน
          ข้อ 4 ละประธานของประโยค คือ เรา
*********************************************
66. ข้อความตอนใดเป็นประโยคความซ้อน
          1. ตอนที่ (1) และ (2)
          2. ตอนที่ (2) และ (3)
          3. ตอนที่ (3) และ (4)
          4. ตอนที่ (4) และ (1)
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ตอนที่ (1) ประโยคหลัก คือ ประชากรคือทรัพยากร
                           ประโยคย่อย คือ (ทรัพยากร) มีค่าที่สุดของประเทศ
                           ตัวเชื่อม คือ ที่
          ตอนที่ (4) ประโยคหลัก คือ คิดดูเถิด (ละประธาน)
                           ประโยคย่อย คือ ประเทศจะประสบความวิบัติสักเท่าใด
                           ตัวเชื่อม คือ ว่า
*********************************************
67. ข้อใดเป็นประโยคกรรม
          1. เรื่องของคำสรรพนามนี้นับว่าเป็นลักษณะที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของภาษาไทย
          2. ท่วงทำนองการเขียนของนักเรียนนั้นครูไม่ควรพยายามเปลี่ยนให้เป็นไปตามที่ครูต้องการ
          3. การสอนเรื่องราชาศัพท์นั้นครูไม่จำเป็นต้องให้นักเรียนท่องจำโดยเฉพาะคำที่ไม่ค่อยได้ใช้
          4. จุดประสงค์ในการบรรยายเรื่องนี้ก็เพื่อให้พนักงานได้เข้าใจวิธีทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ประโยคกรรม คือ ประโยคที่ใช้กรรมมาขึ้นต้นประโยค
          ประโยคในข้อ 2 เป็นประโยคกรรม ถ้าเปลี่ยนเป็นประโยคที่ใช้ประธานอยู่หน้า (ประโยคกรรตุ) จะเป็นดังนี้
          "ครูไม่ควรพยายามเปลี่ยนท่วงทำนองการเขียนของนักเรียนให้เป็นไปตามที่ครูต้องการ"
*********************************************
68. ข้อใดเป็นประโยคต่างชนิดกับข้ออื่น
          1. บ่อรวมปลาใช้เป็นบ่ออนุบาลลูกปลาที่มีขนาดเล็ก
          2. ปลาพันธุ์ต่าง ๆ กินอาหารธรรมชาติที่เกิดขึ้นในแปลงนา
          3. หลังจากที่ไถคราดและปักดำเสร็จแล้วจึงควรปล่อยปลา
          4. พันธุ์ปลาที่เหมาะแก่การเลี้ยงในนาข้าวควรมีคุณสมบัติเลี้ยงง่าย
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1, ข้อ 2 และ ข้อ 4 เป็นประโยคความซ้อน
          ข้อ 3 เป็นประโยคความรวม ประกอบด้วยประโยค 2 ประโยค คือ หลังจากที่ไถคราดและปักดำเสร็จแล้ว / จึงควรปล่อยปลา
*********************************************
69. ข้อใดวางส่วนขยายผิดที่
          1. กรมประชาสงเคราะห์ได้พยายามช่วยเหลือเด็กยากจนเร่ร่อนให้มีผู้ปกครองคอยดูแลที่เหมาะสม
          2. ทุกคนตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงพนักงานทำงานด้วยความมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จและชื่อเสียงขององค์กร
          3. ในการมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะฟื้นฟูประเพณีเก่า ๆ ขึ้นมา
          4. สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปรับปรุงบริการรับแจ้งเหตุต่าง ๆ ทางโทรศัพท์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          วางส่วนขยายผิดที่ ข้อความ "ที่เหมาะสม" ควรเรียงไว้หลังข้อความ "ให้มีผู้ปกครอง"
*********************************************
70. ข้อใดเป็นประโยคกรรม
          1. ครูคนนี้เป็นต้นแบบและตัวอย่างที่ดีสมควรได้รับรางวัล
          2. เนื้อหาวิชาที่เข้มข้นทันสมัยได้มาจากการวิจัยต่อเนื่อง
          3. เด็กจะเรียนรู้ได้มากถ้าได้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม
          4. ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดซึ่งไม่พบในที่อื่น ๆ ของโลก
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ประโยคนี้เป็นประโยคกรรม ถ้าเอาประธานขึ้นต้นได้ดังนี้ "การวิจัยต่อเนื่องทำให้ได้เนื้อหาวิชาที่เข้มข้นทันสมัย"
*********************************************
71. ข้อใดมีส่วนขยายของบทกรรม
          1. ลายเชิงเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่อ่อนช้อยงดงามของผู้ชายล้านนา
          2. คนหนุ่มสาวนั่งบนเสื่อแดงผืนยาวที่ปูอยู่บนพื้นด้านหน้า
          3. ครูใช้ดอกไม้หอมที่จุ่มน้ำขมิ้นส้มป่อยสะบัดพรมให้แก่ลูกศิษย์
          4. พิธีสืบสายลายเชิงเป็นการสืบทอดองค์ความรู้แบบเดิมของล้านนา
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          บทกรรม คือ ดอกไม้หอม
          ส่วนขยายของบทกรรม คือ ที่จุ่มน้ำขมิ้นส้มป่อย
*********************************************
72. ข้อใดไม่ใช่ประโยคความรวม
          1. กายเขาสบายแต่ใจเขาไม่สบาย
          2. ปีนี้ฝนตกชุกร่มจึงขายดีกว่าปีก่อน
          3. มะลิวัลย์น้องสาวของมาลัยวัลย์เรียนและเล่นกีฬาเก่ง
          4. ผู้ไม่ประสงค์ออกนามบริจาคเงินสองแสนบาทให้โรงพยาบาล
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 เป็นประโยคความรวม มี "แต่" เป็นตัวเชื่อม
          ข้อ 2 เป็นประโยคความรวม มี "จึง" เป็นตัวเชื่อม
          ข้อ 3 เป็นประโยคความรวม มี "และ" เป็นตัวเชื่อม
          ข้อ 4 เป็นประโยคความเดียว
                  ภาคประธาน คือ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
                  ภาคแสดง คือ บริจาคเงินสองแสนบาทให้โรงพยาบาล
*********************************************
73. ข้อใดไม่ใช่ประโยคความซ้อน
          1. พิมลทำงานหนักเพื่อเขาจะได้เงินมาก ๆ
          2. สคราญย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่เป็นเวลา 20 ปีแล้ว
          3. คุณพ่อเสนอแนะว่าควรตัดต้นไม้ที่ล้มอยู่หลังบ้าน
          4. วิมลทิพย์เก็บผลไม้ในสวนที่อยู่ติดกับสวนดอกไม้
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1. เป็นประโยคความซ้อน
                  ประโยคหลัก คือ พิมลทำงานหนัก
                  ประโยคย่อย คือ เขาจะได้เงินมาก ๆ
                  ตัวเชื่อม คือ เพื่อ
          ข้อ 2. เป็นประโยคความเดียว ภาคประธาน คือสะคราญ
                  ภาคแสดง คือ ย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่เป็นเวลา 20 ปีแล้ว
          ข้อ 3. เป็นประโยคความซ้อน
                  ประโยคหลัก คือ คุณพ่อเสนอแนะ
                  ประโยคย่อย คือ ควรตัดต้นไม้ที่ล้มอยู่หลังบ้าน
                  ตัวเชื่อม คือ ว่า
          ข้อ 4. เป็นประโยคความซ้อน
                  ประโยคหลัก คือ วิมลทิพย์เก็บผลไม้ในสวน
                  ประโยคย่อย คือ อยู่ติดกับสวนดอกไม้
                  ตัวเชื่อม คือ ที่
*********************************************
74. ข้อใดเป็นประโยคต่างชนิดกับข้ออื่น
          1. ของกินสำหรับเด็ก ๆ เต็มตระกร้าใบใหญ่
          2. เราจะได้นั่งรถรางรอบเกาะรัตนโกสินทร์
          3. สินค้าในร้านของเขาทันสมัยทุกชนิด
          4. เรื่องที่เสนอขึ้นไปติดขัดตรงไหนบ้าง
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1, 2 และ ข้อ 3 เป็นประโยคความเดียว
          ข้อ 4 เป็นประโยคความซ้อน ประโยคหลัก คือ เรื่องติดขัดตรงไหนบ้าง ประโยคย่อย คือ (เรื่อง) เสนอขึ้นไป ตัวเชื่อม คือ ที่
*********************************************
75. ข้อใดใช้สำนวนไทยถูกต้อง
          1. ทำอะไรไม่อดทนเลยนะเธอ ใจปลาซิวเหลือเกิน
          2. เขาโกรธน้องชายมากจนเลือดเข้าตา แต่ทำอะไรไม่ได้
          3. พอเธอหายป่วยก็ปีกกล้าขาแข็ง ขับรถไปต่างจังหวัดคนเดียว
          4. หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว เขากับเธอก็เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กันออกมาจากร้าน
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 ใช้สำนวนถูกต้อง ใจปลาซิว หมายถึง ไม่มีความอดทน
          ข้อ 2 ใช้สำนวนไม่ถูกต้อง เลือดเข้าตา หมายถึง ทำหรือสู้อย่างไม่กลัวตาย
          ข้อ 3 ใช้สำนวนไม่ถูกต้อง ปีกกล้าขาแข็ง หมายถึง พึ่งตัวเองได้ ใช้กล่าวเชิงตำหนิว่าหยิ่งยโส
          ข้อ 4 ใช้สำนวนไม่ถูกต้อง เคียงบ่าเคียงไหล่ หมายถึง ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
*********************************************
76. ข้อใดใช้สำนวนไม่ถูกต้อง
          1. เขารับจะเป็นทนายหน้าหอว่าความคดียักยอกทรัพย์ของธนาคาร
          2. ทั้ง ๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนางกลางเมือง หล่อนก็มิได้ขัดเคืองโต้ตอบใด ๆ
          3. เพื่อน ๆ คิดว่าเขาเป็นนกสองหัว จึงพากันรังเกียจไม่คบค้าสมาคมด้วย
          4. กีฬามหาวิทยาลัยแต่ละครั้ง สถาบันที่ไม่มีทีมชาติมักเป็นหมูสนามให้เขาต้อน
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          ข้อ 1 ใช้สำนวนไม่ถูกต้อง ทนายหน้าหอ หมายถึง ผู้รับหน้าแทนนาย
          ข้อ 2 ใช้สำนวนถูกต้อง นางกลางเมือง หมายถึง หญิงบำเรอ
          ข้อ 3 ใช้สำนวนถูกต้อง นกสองหัว หมายถึง คนที่เข้ากับทั้งสองฝ่าย
          ข้อ 4 ใช้สำนวนถูกต้อง หมูสนาม หมายถึง ผู้ที่ถูกล่อให้แพ้ได้ง่าย
*********************************************
77. ข้อใดใช้สำนวนได้ถูกต้อง
          1. ลูกทำกิจการขาดทุนหลายครั้ง แต่แม่ก็ฆ่าไม่ตายขายไม่ขาด ให้เงินช่วยทุกครั้ง
          2. ตอนนี้เขาร่ำรวย แต่เมื่อหนุ่ม ๆ ยากจนแทบไม่มีจะกิน เข้าทำนองตีนถีบปากกัด
          3. เธอบอกว่าไม่ชอบสมศักดิ์ แต่พอเขาชวนไปเที่ยวก็ไป เข้าตำราปากว่าตาขยิบ
          4. คุณปู่เล่าว่าแต่ก่อนเรามีฐานะดีมากขนาดที่เรียกว่าข้าวเหลือเกลืออิ่ม
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1 ใช้สำนวนไม่ถูกต้อง ฆ่าไม่ตายขายไม่ขาด หมายถึง ตัดไม่ขาด (มักใช้แก่พ่อแม่ ถึงจะโกรธเกลียดลูกก็ตัดไม่ขาด)
          ข้อ 2 ใช้สำนวนไม่ถูกต้อง ตีนถีบปากกัด หมายถึง มานะพยายามทำงานทุกอย่างเพื่อปากท้อง โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก
          ข้อ 3 ใช้สำนวนถูกต้อง ปากว่าตาขยิบ หมายถึง ปากกับใจไม่ตรงกัน
          ข้อ 4 ใช้สำนวนไม่ถูกต้อง ข้าวเหลือเกลืออิ่ม หมายถึง บริบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร
*********************************************
78. สำนวนในข้อใดมีความหมายใกล้เคียงกับคำประพันธ์ต่อไปนี้มากที่สุด
     "พักตร์จิตผิดประมาณ        ยากรู้"
          1. ปากปราศรัย         ใจเชือดคอ
          2. ต่อหน้ามะพลับ         ลับหลังตะโก
          3. คบคนให้ดูหน้า         ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ
          4. ข้างนอกสุกใส         ข้างในเป็นโพรง
เฉลยข้อ 1 เหตุผล
          "พักตร์จิตผิดประมาณ        ยากรู้" คือ ลักษณะของคนที่หน้าเนื้อใจเสือ คือ หน้าตาแสดงความเมตตาแต่ใจโหดเหี้ยม
          ข้อ 1. ปากปราศรัย         ใจเชือดคอ หมายถึง พูดดีแต่ใจคิดร้าย
          ข้อ 2. ต่อหน้ามะพลับ         ลับหลังตะโก หมายถึง ต่อหน้าทำเป็นดี แต่พอลับหลังก็นินทา หรือหาทางทำร้าย
          ข้อ 3. คบคนให้ดูหน้า         ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ หมายถึง จะคบใครให้พิจารณาเสียก่อน
          ข้อ 4. ข้างนอกสุกใส         ข้างในเป็นโพรง หมายถึง ภายนอกดูดีต่างจากข้างใน
*********************************************
79. ข้อความต่อไปนี้ตรงกับสำนวนใด
     "ข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนายเชี่ยวชาญนั้น น่าจะเป็นการปล่อยข่าวเพื่อต้องการทราบว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร"
          1. กวนน้ำให้ขุ่น
          2. โยนหินถามทาง
          3. หว่านพืชหวังผล
          4. ปากคนยาวกว่าปากกา
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1. กวนน้ำให้ขุ่น หมายถึง ทำเรื่องราวที่สงบอยู่ให้เกิดวุ่นวายขึ้นมา
          ข้อ 2. โยนหินถามทาง หมายถึง กระทำการอย่างหนึ่งเพื่อดูผลที่ตอบกลับมา
          ข้อ 3. หว่านพืชหวังผล หมายถึง ให้ประโยชน์แก่ผู้อื่นเพื่อหวังผลตอบแทน
          ข้อ 4. ปากคนยาวกว่าปากกา หมายถึง ข่าวจากปากต่อปากแพร่ไปได้รวดเร็ว
*********************************************
80. ข้อความต่อไปนี้ตรงกับสำนวนในข้อใด
     "เขาโชคดีที่ได้รับจดหมายเรียกตัวเข้าทำงานทั้ง 2 แห่งพร้อม ๆ กัน จึงตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกทำที่ไหนดี"
          1. จับปลาสองมือ
          2. สองฝักสองฝ่าย
          3. รักพี่เสียดายน้อง
          4. เหยียบเรือสองแคม
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1. จับปลาสองมือ หมายความว่า ทำอะไรที่มุ่งหวังสองอย่างในขณะเดียวกัน
          ข้อ 2. สองฝักสองฝ่าย หมายความว่า ทำตัวเข้าด้วยทั้งสองฝ่าย
          ข้อ 3. รักพี่เสียดายน้อง หมายความว่า ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกอย่างไหนดี
          ข้อ 4. เหยียบเรือสองแคม หมายความว่า ทำทีเข้าด้วยทั้งสองฝ่าย
*********************************************
81. สำนวนในข้อใดนำมาเติมลงในช่องว่างได้เหมาะสมที่สุด
     "รายงานฉบับนี้วิชัยทำแบบ ................ พอให้มีส่งอาจารย์ เพราะยังมีรายงานอีกหลายฉบับที่ยังไม่ได้ทำทิ้งไว้จนเข้าตำรา ............. "
          1. ผักชีโรยหน้า         ยุ่งเหมือนยุงตีกัน
          2. สุกเอาเผากิน         ดินพอกหางหมู
          3. ตำข้าวสารกรอกหม้อ         กองเป็นภูเขาเลากา
          4. จับแพะชนแกะ         หัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้น
เฉลยข้อ 2 เหตุผล
          ข้อ 1. ผักชีโรยหน้า หมายความว่า การทำความดีเพียงผิวเผิน
                   ยุ่งเหมือนยุงตีกัน หมายความว่า ยุ่งเหยิง, สับสนปนเปกัน
          ข้อ 2. สุกเอาเผากิน หมายความว่า ทำพอเสร็จไปคราวหนึ่ง ๆ
                   ดินพอกหางหมู หมายความว่า ที่คั่งค้างพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ
          ข้อ 3. ตำข้าวสารกรอกหม้อ หมายความว่า หาเพียงแค่พอกินไปมื้อหนึ่ง ๆ
                   กองเป็นภูเขาเลากา หมายความว่า กองเป็นจำนวนมาก
          ข้อ 4. จับแพะชนแกะ หมายความว่า ทำอย่างขอไปที ไม่ได้อย่างนี้ก็เอาอย่างนั้นเข้าแทน
                   หัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้น หมายความว่า รวบหมดทั้งหัวทั้งหาง
*********************************************
82. ข้อความตอนใดใช้ราชาศัพท์ผิด
     (1) เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พลับพลาพิธีแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร / (2) ทรงกราบ / (3) ทรงประทับพระราชอาสน์ / (4) และทรงศีล
          1. ตอนที่ (1)
          2. ตอนที่ (2)
          3. ตอนที่ (3)
          4. ตอนที่ (4)
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          คำกริยาที่เป็นราชาศัพท์แล้ว ไม่ต้องใช้ "ทรง" นำหน้า
*********************************************
83. ข้อความตอนใดใช้ราชาศัพท์ถูกต้อง
     (1) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเซียนเกมส์ที่ผ่านมา / (2) คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ถวายการต้อนรับและอัญเชิญเสด็จยังที่ประทับ / (3) จากนั้นได้ทรงเสด็จฯ เปิดราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ / (4) ท้ายสุดได้ทอดพระเนตรการแสดงที่คณะกรรมการจัดถวายหน้าที่นั่ง
          1. ตอนที่ (1)
          2. ตอนที่ (2)
          3. ตอนที่ (3)
          4. ตอนที่ (4)
เฉลยข้อ 4 เหตุผล
          ข้อ 1 เสด็จเป็นองค์ประธาน ควรใช้ว่า เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป้นประธาน
          ข้อ 2 ถวายการต้อนรับ ควรใช้ว่า เฝ้าฯ รับเสด็จ
                   อัญเชิญเสด็จ ควรใช้ว่า กราบบังคมทูลเชิญเสด็จ
          ข้อ 3 ทรงเสด็จฯ ควรใช้ว่า เสด็จพระราชดำเนิน
          ข้อ 4 จัดถวายหน้าที่นั่ง ใช้ถูกต้องแล้ว (การแสดงถวายทอดพระเนตร ใช้ว่าแสดงเฉพาะพระพักตร์ หรือแสดงหน้าที่นั่ง)
*********************************************
84. ข้อความตอนใดใช้ราชาศัพท์ไม่ถูกต้อง
      (1) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ / (2) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารเสด็จออกแทนพระองค์ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน / (3) พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานวุฒิสภา / (4) เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล
          1. ตอนที่ (1)
          2. ตอนที่ (2)
          3. ตอนที่ (3)
          4. ตอนที่ (4)
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          คำราชาศัพท์ที่ใช้ไม่ถูกต้อง คือ พระบรมราชวโรกาส ควรใช้เป็น พระราชวโรกาส เพราะใช้กับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
*********************************************
85. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ได้ถูกต้อง
          1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชานุเคราะห์แก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
          2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
          3. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นอาจารย์ของนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
          4. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดอาหารแห้งและน้ำดื่มไปแจกผู้ประสบอุทกภัย
เฉลยข้อ 3 เหตุผล
          ข้อ 1. พระราชานุเคราะห์ ควรใช้ พระบรมราชานุเคราะห์
          ข้อ 2. ทรงเป็นพระราชนัดดา ควรใช้ เป็นพระราชนัดดา
          ข้อ 3. ใช้ราชาศัพท์ได้ถูกต้อง
          ข้อ 4. ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ควรใช้ มีพระราชเสาวนีย์
ที่มา
และ

#สถิติการชมเว็บไซต์#(ขอบคุณที่เข้ามาชม)