เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น นอกจากความเสียหายทางกายและทรัพย์สินแล้ว ยังมีความผิดทางกฎหมายเกิดขึ้น 2 ประเภทหลัก คือ ความผิดทางอาญา
และ ความผิดทางแพ่ง ซึ่งมีความแตกต่างกันในแง่ของวัตถุประสงค์ของการดำเนินคดี และผลที่ตามมา
ความผิดทางอาญา
เพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด เพื่อให้สังคมได้อยู่เย็นเป็นสุข และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ผู้ดำเนินคดี: พนักงานอัยการ
โทษที่ได้รับ: จำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตัวอย่างคดีอาญาในคดีรถชน: ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถชนแล้วหนี
ความผิดทางแพ่ง
เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้
ผู้ดำเนินคดี: ผู้เสียหายเอง หรือผู้แทนทางกฎหมาย
ผลที่ได้รับ: ค่าเสียหายเป็นเงิน
ตัวอย่างคดีแพ่งในคดีรถชน: เรียกค่าเสียหายจากการบาดเจ็บ, เรียกค่าเสียหายจากการสูญเสียทรัพย์สิน
คดีรถชนส่วนใหญ่ประกอบด้วยทั้งความผิดทางอาญาและความผิดทางแพ่ง ผู้กระทำความผิดจากการขับรถชน อาจต้องรับผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่งไปพร้อมกัน
ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ขับรถชนแล้วมีผู้บาดเจ็บ อาจต้องรับโทษจำคุกในข้อหาขับรถโดยประมาท และต้องชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้บาดเจ็บด้วย
สรุป
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างความผิดทางอาญาและความผิดทางแพ่งในคดีรถชน
จะช่วยให้ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุสามารถเรียกร้องสิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้อง และผู้กระทำความผิดก็จะได้รับโทษที่เหมาะสม
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
https://dla.wu.ac.th/
หากคุณหรือคนที่คุณรัก เป็นผู้ได้รับอุบัติเหตุหรือประสบเหตุบนท้องถนน และเป็นฝ่ายเสียหายหรือถูกชนในอุบัติเหตุดังกล่าว สามารถปรึกษาสำนักงานกฏหมายภัสสรได้เลยค่ะ เพราะเราเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือคุณในทุกเหตุการณ์ที่คุณเจอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น