วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568

ขับเกียร์ออโต้อย่างไรให้ถูกวิธี

 


ขับเกียร์ออโต้อย่างไรให้ถูกวิธี ขอบคุณเจ้าของเพจ : ความรู้
🚗🛻✌️
1. เกียร์ P (Parking) ใช้สำหรับจอดรถ
ซึ่งเกียร์ P จะช่วยล็อคล้อไว้ไม่ให้รถเคลื่อน โดยเราควรเปลี่ยนเกียร์รถมาที่ P เมื่อต้องการสตาร์ทรถหรือเมื่อรถจอดนิ่งสนิทแล้วต้องการดับเครื่องพร้อมดึงเบรกมือเสริมด้วยป้องกันเกียร์รถพัง
2. เกียร์ R (Reverse) คือ เกียร์ถอยหลัง
โดยปกติรถยนต์จะทำการถอยหลังเองช้าๆ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งเพิ่ม ผู้ขับต้องวางเท้าที่แป้นเบรกเพื่อเตรียมตัวเหยียบเบรกไว้ด้วย จะช่วยให้ขับรถถอยหลังปลอดภัยมากขึ้น
3. เกียร์ N (Neutral) คือ เกียร์ว่าง
สำหรับเกียร์ N ใช้เมื่อต้องการจอดรถไว้ชั่วคราว เช่น จอดรถติดไฟแดงหรือจอดรถในสถานที่ที่ต้องจอดขวางหน้ารถคันอื่นเพราะเมื่อเกียร์รถอยู่ในตำแหน่ง N รถจะสามารถเข็นไปได้นั่นเอง
4. เกียร์ D (Drive) หรือ D4 คือ เกียร์เดินหน้า
เมื่อเปลี่ยนเกียร์รถมาที่ตำแหน่ง D แล้ว รถจะเริ่มออกตัวไปเองอย่างช้าๆ และเมื่อเหยียบคันเร่ง รถจะเริ่มเปลี่ยนเกียร์เองอัตโนมัติ โดยเริ่มจากเกียร์ 1 แล้วไปเกียร์ 2 แล้วไปเกียร์ 3 จนถึงสูงสุดที่เกียร์ 4 ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถ
5. เกียร์ L (Low) ใช้ในการขับรถขึ้น-ลง เส้นทางที่มีความลาดชันสูง
โดยปกติแล้วส้นทางที่มีความลาดชันสูงและต้องใช้ความเร็วต่ำในการขับขี่ เมื่อลงเขาด้วยเกียร์ L จะเป็นการใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรก หรือ Engine Brake เพื่อลดการเหยียบเบรกบ่อยๆ ที่อาจจะทำให้ผ้าเบรกหมดเร็วได้
6. เกียร์ S (Sport) หรือ B (Break)
ในปัจจุบันรถรุ่นใหม่ๆ มีเกียร์ S ที่มาเพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยให้เปลี่ยนอัตราทดเกียร์ช้าลง หรือเครื่องยนต์ลากรอบมากกว่าปกติ ไว้ใช้สำหรับเร่งแซง ส่วนเกียร์ B ใช้สำหรับขับรถขึ้นลงทางลาดชัน ทำงานเหมือนกับเกียร์ L
วิธีการขับและดูแลรถเกียร์อัตโนมัติ
1) ไม่ควรขับลากเกียร์ หากมีการขับรถลากเกียร์หรือเปลี่ยนเกียร์เองเพื่อต้องการอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นหรือต่ำกว่ารอบความเร็ว จะส่งผลให้คลัตช์และระบบเกียร์รถยนต์ สึกหรอได้ง่าย
2) ไม่ขับแบบคิกดาวน์บ่อย ๆ จะส่งผลให้ผ้าคลัตช์ของเกียร์ทำงานหนักและพังเร็วได้
3) ไม่ควรเข้าเกียร์ N เพื่อปล่อยให้รถไหลเอง ทำให้ระบบเกียร์ออโต้เสียหายและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แถมยังไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมันเลยอีกด้วย
4) อย่าเหยียบคันเร่งและเบรกพร้อมกัน การเหยียบคันเร่งและเบรกพร้อมกันจะทำให้ระบบเกียร์เกิดความเสียหายได้
ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์เป็นประจำ น้ำมันเกียร์มีหน้าที่หล่อลื่นและระบายความร้อนให้กับระบบเกียร์ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์เป็นประจำและเติมน้ำมันเกียร์เมื่อจำเป็น
หมายเหตุ : การขับรถและการดูแลรถยนต์เกียร์อัตโนมัติอาจจะดูเหมือนมีส่วนที่ต้องให้จำเยอะแยะไปหมด แต่ถ้าหากเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์ตัวอักษรเกียร์เหล่านี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่เวลาเลือกใช้เกียร์ก็ต้องทำให้ถูกโอกาสเท่านั้น เพียงแค่นี้ เรื่องการขับรถเกียร์ออโต้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับมือใหม่อีกต่อไปแล้ว
ขอบคุณ เพจ : ความรู้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

📕 ❝ ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม ❞

  #หนังสือดีบอกครูต่อ E-Book ❝ ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม ❞ โดย รศ.ดร.วันทนา เนาว์วัน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ...