วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2565

วิสัยทัศน์การพัฒนากรุงเทพมหานคร (Vision of Bangkok 2020)

วิสัยทัศน์การพัฒนากรุงเทพมหานคร (Vision of Bangkok 2020)

กรุงเทพมหานคร มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้า การบริการ ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความได้เปรียบเชิงตำแหน่งที่ตั้งของพื้นที่ที่อยู่ตรงกลางของประเทศในกลุ่มอาเซียน และความได้เปรียบในความหลากหลายและความเชี่ยวชาญในการกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกื้อหนุนความเป็นศูนย์กลาง ซึ่งการพัฒนาในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลให้กรุงเทพฯ มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก แต่ประเด็นด้านความแออัดทางกายภาพ ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมทางสังคมและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมกลับมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง และด้วยกระแสการแข่งขันของเมืองระดับโลกต่างมุ่งเข้าสู่การสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้สมดุลกับสภาพแวดล้อมและการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียมกัน วิสัยทัศน์ในการพัฒนากรุงเทพฯ ในฐานะเมืองระดับโลกและเมืองศูนย์กลางแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงต้องมีหลักการที่ประสานการพัฒนาอย่างสมดุล ภายใต้หลักการ “มหานครน่าอยู่อย่างยั่งยืน” (Sustainable Metropolis) ซึ่งมุ่งพัฒนาโดยยึดประชาชนชาวกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเพื่อให้ประชาชนมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการมีความเป็นอยู่ที่ดีซึ่งจะส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของกรุงเทพฯ เพื่อให้เป็นมหานครระดับโลก ควบคู่ไปกับการสร้างบริการสาธารณะที่มีคุณภาพดี และสามารถเข้าถึงได้อย่างเหมาะสม เพื่อเกิดความเท่าเทียมกันของประชาชน

จากวิสัยทัศน์ “มหานครน่าอยู่อย่างยั่งยืน” ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นแนวทางการพัฒนา 3 แนวทางได้แก่ Gateway Green และ Good Life โดยได้แยกวิสัยทัศน์ออกเป็น 3 มิติการพัฒนาซึ่งเชื่อมโยงกับการพัฒนาในระดับพื้นที่ ได้แก่ มหานคร (Gateway) ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาในระดับมหานคร ยั่งยืน (Green) ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาระดับเมือง และน่าอยู่ (Good Life) ที่เป็นแนวทางการพัฒนาในระดับชุมชน โดยมีเป้าหมายที่จะบูรณาการแนวทางการพัฒนาทั้งสามระดับพื้นที่อย่างสมดุล เหมาะสมกับศักยภาพทางที่ตั้งและตำแหน่งทางความเชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพฯ กับพื้นที่สำคัญอื่นๆ ของโลกประสานอย่างกลมกลืนกับความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครองของประเทศ และการมีบริการพื้นฐานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ความประสานกันอย่างสมดุลดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยและเป็นตัวนำแห่งความเท่าเทียมกันของประชาชนต่อเนื่องไปยังระดับประเทศอีกด้วย โดยแต่ละแนวทางการพัฒนาแต่ละประเด็นจะมีหลักการดังนี้

การเป็นมหานครศูนย์กลางภูมิภาค (Gateway)

ความเป็น Gateway หมายถึงการเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ต่างๆ ที่มีบริบทแตกต่างกัน จึงมีความต้องการที่เชื่อมโยง ส่งถ่าย และแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สิ้นค้า ข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ เทคโนโลยี และวิทยาการ ให้ไปยังอีกพื้นที่หนึ่งเพื่อเป็นฐานในการผลิตต่อไป ส่งผลให้มีความต้องการการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในเชิงของตัวสินค้าและในเชิงพื้นที่ ดังนั้นพื้นที่ที่จะรองรับการเป็น Gateway ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องมีตำแหน่งที่ตั้งที่เหมาะสมต่อการเชื่อมต่อมีโครงสร้างพื้นฐานที่จะส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมต่ออย่างสะดวกและประหยัด มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีองค์ความรู้ที่สามารถตอบสนองกับการเป็นจุดเชื่อมต่อที่ดี

กรุงเทพมหานคร มีความเป็น Gateway ของประเทศไทยที่เชื่อมโยงไปสู่หลายระดับพื้นที่ ตั้งแต่กลุ่มประเทศอินโดจีน ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พื้นที่ระดับทวีปเอเชีย-โอเชเนีย ไปจนถึงระดับโลกเนื่องจากมีตำแหน่งที่ตั้งตรงกลางของหลายระดับพื้นที่ สามารถเชื่อมโยงทั้งระดับภายในประเทศและระหว่างประเทศได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีระดับการพัฒนาสูงเมื่อเทียบกับพื้นที่ข้างเคียงที่มีการผลิตในห่วงโซอุปทาน (Supply Chain)           ส่งผลให้กรุงเทพมหานคร มีความเป็นศูนย์รวมของแหล่งผลิตขั้นสุดท้ายที่ส่งไปยังผู้บริโภคในตลาดต่างๆ ที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วโลก มีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่หลากหลายและครบสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นทางบก (ทั้งระบบถนนและระบบราง) ทางน้ำและทางอากาศ ส่งผลให้กรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานของการผลิตหลายประเภท ทั้งด้านอุตสาหกรรม การค้า การบริการและการท่องเที่ยว จึงต้องมีวิสัยทัศน์การพัฒนาที่จะส่งเสริมการเป็น Gateway ที่มีทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงต่อระหว่างภายในกับภายนอก เป็นพื้นที่รวบรวมและการจายบุคคล สินค้า วัฒนธรรม และองค์ความรู้ที่เหมาะสมและก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มให้กับหน่วยธุรกิจในพื้นที่ อีกทั้งต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ สัญลักษณ์ และความประทับใจครั้งแรกของผู้เยี่ยมเยือนที่มีต่อประเทศที่จะต้องได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกด้วย โดยกรุงเทพมหานครจะต้องมีความเป็น Gateway ทั้งด้านกายภาพสังคม เศรษฐกิจ และการบริหารจัดการ

ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน กรุงเทพมหานครจะได้รับการพัฒนาให้เป็น “ศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการขนส่งและสื่อสาร” ซึ่งโดยปกติแล้ว กิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ที่มีความเป็น Gateway จะเป็นการผลิตขั้นสุดท้ายที่พึ่งพาวัตถุดิบที่ผลิตขั้นต้นและขั้นกลางมาจากพื้นที่ที่อยู่ห่างจากประตูเชื่อมต่อออกไป และจะมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมและกระจายสินค้า เพื่อให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถส่งถ่ายได้อย่างประหยัดสะดวก และตรงกับความต้องการของตลาด ดังนั้น การพัฒนาด้านกายภาพของกรุงเทพมหานคร ในแง่ประสิทธิภาพการเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยกับพื้นที่อื่นๆในโลก จึงมุ่งพัฒนาให้มีโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านคมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่เอื้ออำนวยให้เกิดการเชื่อมโยงอย่างสะดวก ประหยัดและรวดเร็วแต่ด้วยข้อจำกัดของกรุงเทพมหานคร ที่มีขนาดพื้นที่สำหรับระบบโครงสร้างพื้นฐานน้อยกว่ามหานครแห่งอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสัดส่วนพื้นฐานที่ถนนต่อพื้นที่เมืองทั้งหมดซึ่งกรุงเทพมหานครมีสัดส่วนพื้นที่ถนนเพียงร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่เมืองทั้งหมด ในขณะที่มหานครโตเกียวมีสัดส่วนโตเกียวมีสัดส่วนพื้นที่ถนนร้อยละ 23 และมหานครนิวยอร์กมีพื้นที่ถนนนร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับพื้นที่เมืองทั้งหมด

ด้วยข้อจำกัดดังกล่าว กรุงเทพมหานคร จึงต้องมีการพัฒนาในรูปแบบที่ต้องการใช้ขนาดพื้นที่เพื่อการวางโครงสร้างพื้นฐานไม่มากนัก แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชนและหน่วยธุรกิจต่างๆ ได้อย่างทัดเทียมกับมหานครแห่งอื่นๆ ด้วยการพัฒนาการขนส่งและคมนาคมระบบรางที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและต้องการพื้นที่น้อยกว่าระบบถนน การรวมช่องทางของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อลดความต้องการทางพื้นที่สะดวกในการบำรุงรักษา และสามารถกระจายสาธารณูปการต่างๆ ลงไปสู่พื้นที่แทนการรวมศูนย์ จึงมีความต้องการทางพื้นที่เล็กลง  แต่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงและให้บริการสูงขึ้น รวมถึงการยกระดับการให้บริการให้ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มปริมาณพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่สารถตอบสนองการผลิตในพื้นที่ Gateway

ส่วน Gateway ด้านสังคม จะมุ่งสู่การเป็น “ศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการศึกษา มหานครแห่งการเรียนรู้ สุขภาพ และวัฒนธรรม” เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เทคนิควิทยาการและองค์ความรู้ที่ประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษอีกด้วย ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางขององค์ความรู้ด้านต่างๆที่จะตอบสนองการผลิต การค้า การบริการ และการท่องเที่ยวของประเทศและกลุ่มประเทศและกลุ่มประเทศเป็นศูนย์กลางการค้นคว้า วิจัยและผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในพื้นที่ เพื่อตอบสนองกับการเป็นศูนย์กลางธุรกิจ การเงิน การธนาคาร และเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการเป็น Gateway ทางสังคมมีความหมายไปถึงภาพลักษณ์ของประเทศ เนื่องจากเป็นจุดแรกที่ผู้เยี่ยมเยือนจะรับรู้และความประทับใจครั้งแรกกับประเทศไทย ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงต้องมีสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ดี มีคุณภาพ ได้รับการยอมรับและมีมาตรฐานในระดับสากล และสะท้อนเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้ชาวโลกได้รับทราบ โดยการออกมาตรการต่างๆ ทั้งด้านผังเมืองรวม ผังเมืองเฉพาะ แผนงาน และโครงการที่จะส่งเสริมและประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์ของประเทศไทยไปสู่การรับรู้ของเวทีโลก

การสร้างความเป็น Gateway ทางเศรษฐกิจให้กับกรุงเทพมหานครส มีเป้าหมายสำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเชิงธุรกิจ ให้กรุงเทพมหานครเป็น “ศูนย์กลางของภูมิภาคด้านเศรษฐกิจวิทยาการ ธุรกิจการเงิน การท่องเที่ยว และการบริการ” โดยให้ความสำคัญกับการสร้างฐานเศรษฐกิจอยู่บนการค้นคว้าและวิจัยทางเทคโนโลยี การเป็นศูนย์กลางด้านการเงินการธนาคารในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าของการเปลี่ยนมือของกระแสเงินตราในแต่ละครั้ง รวมถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวที่มีจุดขายเป็นทรัพยากรทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติและระบบนิเวศ รวมถึงการค้า การบริการต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในเชิงที่ตั้งและรูปแปบบความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจแล้วกรุงเทพมหานครต้องมีความในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย ที่รวบรวมวิทยาการและกระแสเงินตราจากพื้นที่อื่นๆ ในประเทศแล้วส่งต่อไปยังตลาดการเงินต่างๆทั่วโลก และในทางกลับกัน กรุงเทพมหานครจะต้องทำหน้าที่เป็นด่านเพื่อรับวิทยาการและกระแสเงินจากพื้นที่ต่างๆ ในโลก แล้วกระจายออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ในประเทศอย่างเหมาะสม ภายใต้หลักการของการกระจายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

📕 ❝ ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม ❞

  #หนังสือดีบอกครูต่อ E-Book ❝ ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม ❞ โดย รศ.ดร.วันทนา เนาว์วัน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ...