วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
#รับโอนสายผู้บริหารท้องถิ่นได้ กรณีจังหวัดที่ไม่ได้เปิดสอบ ถึงแม้ว่าตำแหน่งนั้นว่างเกิน 60 วัน (ก็สามารถรับโอนย้ายได้(ในท้องถิ่นประเภทเดียวกัน) #ตามข้อ 12 (2) ประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือก(ข้าราชการอบจ./พนักงานเทศบาล/พนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
#รับโอนสายผู้บริหารท้องถิ่นได้ กรณีจังหวัดที่ไม่ได้เปิดสอบ ถึงแม้ว่าตำแหน่งนั้นว่างเกิน 60 วัน (ก็สามารถรับโอนย้ายได้(ในท้องถิ่นประเภทเดียวกัน)
#ตามข้อ 12 (2) ประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือก(ข้าราชการอบจ./พนักงานเทศบาล/พนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม.jpg)
วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
👇30 เทคนิค "การควบคุมคน"
30 เทคนิค "การควบคุมคน"เรียนรู้กลยุทธ์การโน้มน้าวใจ เข้าใจจิตวิทยามนุษย์
สรุป 30 ข้อคิด
1. 
สร้างความประทับใจแรกพบ**: บุคลิกภาพ การแต่งกาย และภาษากาย ล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจแรก
สร้างความประทับใจแรกพบ**: บุคลิกภาพ การแต่งกาย และภาษากาย ล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจแรก2. ใช้ภาษากาย**: ท่าทาง สีหน้า และแววตา สามารถสื่อสารความรู้สึก และโน้มน้าวใจผู้อื่นได้
ใช้ภาษากาย**: ท่าทาง สีหน้า และแววตา สามารถสื่อสารความรู้สึก และโน้มน้าวใจผู้อื่นได้3. ฟังอย่างตั้งใจ**: การฟังอย่างตั้งใจ แสดงถึงความใส่ใจ และทำให้ผู้พูดรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
ฟังอย่างตั้งใจ**: การฟังอย่างตั้งใจ แสดงถึงความใส่ใจ และทำให้ผู้พูดรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า4. ใช้คำพูดเชิงบวก**: คำพูดที่ให้กำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจ และชื่นชม จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ใช้คำพูดเชิงบวก**: คำพูดที่ให้กำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจ และชื่นชม จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี5. แสดงความเห็นอกเห็นใจ**: เข้าใจความรู้สึก และมุมมองของผู้อื่น
แสดงความเห็นอกเห็นใจ**: เข้าใจความรู้สึก และมุมมองของผู้อื่น 6. สร้างความไว้วางใจ**: ความซื่อสัตย์ จริงใจ และน่าเชื่อถือ เป็นพื้นฐานของความไว้วางใจ
สร้างความไว้วางใจ**: ความซื่อสัตย์ จริงใจ และน่าเชื่อถือ เป็นพื้นฐานของความไว้วางใจ7. ใช้หลักการต่างตอบแทน**: การให้ และการรับ เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้างอิทธิพล
ใช้หลักการต่างตอบแทน**: การให้ และการรับ เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้างอิทธิพล8. ใช้หลักการขาดแคลน**: สิ่งที่หายาก มักมีมูลค่ามากขึ้น
ใช้หลักการขาดแคลน**: สิ่งที่หายาก มักมีมูลค่ามากขึ้น 9. ใช้หลักการสอดคล้อง**: มนุษย์มักต้องการทำสิ่งที่สอดคล้องกับความเชื่อ และพฤติกรรมในอดีต
ใช้หลักการสอดคล้อง**: มนุษย์มักต้องการทำสิ่งที่สอดคล้องกับความเชื่อ และพฤติกรรมในอดีต10. ใช้หลักการชอบ**: เรามักจะคล้อยตามคนที่เราชอบ
ใช้หลักการชอบ**: เรามักจะคล้อยตามคนที่เราชอบ 11. ใช้หลักการอำนาจ**: บุคคลที่มีอำนาจ มักมีอิทธิพลในการโน้มน้าวใจ
ใช้หลักการอำนาจ**: บุคคลที่มีอำนาจ มักมีอิทธิพลในการโน้มน้าวใจ12. ใช้หลักการพิสูจน์ทางสังคม**: เรามักจะทำตามสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ
ใช้หลักการพิสูจน์ทางสังคม**: เรามักจะทำตามสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ 13. ตั้งคำถามนำ**: การตั้งคำถามที่ชี้นำ สามารถโน้มน้าวความคิดของผู้อื่นได้
ตั้งคำถามนำ**: การตั้งคำถามที่ชี้นำ สามารถโน้มน้าวความคิดของผู้อื่นได้14. ใช้เทคนิคการสะท้อน**: การสะท้อนคำพูด หรือท่าทาง ช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยง
ใช้เทคนิคการสะท้อน**: การสะท้อนคำพูด หรือท่าทาง ช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยง15. ใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง**: เรื่องราว สามารถสร้างความประทับใจ และโน้มน้าวใจได้ดีกว่าข้อเท็จจริง
ใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง**: เรื่องราว สามารถสร้างความประทับใจ และโน้มน้าวใจได้ดีกว่าข้อเท็จจริง16. ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย**: สื่อสารอย่างชัดเจน ตรงประเด็น หลีกเลี่ยงศัพท์เทคนิค
ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย**: สื่อสารอย่างชัดเจน ตรงประเด็น หลีกเลี่ยงศัพท์เทคนิค17. ใช้คำพูดที่กระตุ้นอารมณ์**: คำพูดที่เร้าอารมณ์ สามารถสร้างแรงจูงใจ และโน้มน้าวใจได้
ใช้คำพูดที่กระตุ้นอารมณ์**: คำพูดที่เร้าอารมณ์ สามารถสร้างแรงจูงใจ และโน้มน้าวใจได้18. สร้างบรรยากาศ**: บรรยากาศ มีผลต่ออารมณ์ และการตัดสินใจ
สร้างบรรยากาศ**: บรรยากาศ มีผลต่ออารมณ์ และการตัดสินใจ19. ใช้ความเงียบ**: บางครั้ง ความเงียบ ก็ทรงพลังกว่าคำพูด
ใช้ความเงียบ**: บางครั้ง ความเงียบ ก็ทรงพลังกว่าคำพูด20. รู้จักจังหวะและเวลา**: การเลือกเวลาที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจ
รู้จักจังหวะและเวลา**: การเลือกเวลาที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจ21. ควบคุมอารมณ์**: การควบคุมอารมณ์ เป็นสิ่งสำคัญในการโน้มน้าวใจ
ควบคุมอารมณ์**: การควบคุมอารมณ์ เป็นสิ่งสำคัญในการโน้มน้าวใจ22. แสดงความมั่นใจ**: ความมั่นใจ สร้างความน่าเชื่อถือ
แสดงความมั่นใจ**: ความมั่นใจ สร้างความน่าเชื่อถือ23. ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง**: เปิดใจรับฟัง และเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง**: เปิดใจรับฟัง และเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น24. เจรจาต่อรอง**: การเจรจาต่อรอง เป็นทักษะสำคัญในการโน้มน้าวใจ
เจรจาต่อรอง**: การเจรจาต่อรอง เป็นทักษะสำคัญในการโน้มน้าวใจ25. รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว**: บางครั้ง การยอมเสียเปรียบเล็กน้อย อาจนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่มากกว่าในระยะยาว
รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว**: บางครั้ง การยอมเสียเปรียบเล็กน้อย อาจนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่มากกว่าในระยะยาว26. รักษาคำพูด**: การรักษาคำพูด สร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจ
รักษาคำพูด**: การรักษาคำพูด สร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจ27. สร้างเครือข่าย**: เครือข่าย ช่วยเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจแปะไว้อ่าน
สร้างเครือข่าย**: เครือข่าย ช่วยเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจแปะไว้อ่าน28. เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง**: การพัฒนาตนเอง เป็นสิ่งสำคัญในการโน้มน้าวใจ
เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง**: การพัฒนาตนเอง เป็นสิ่งสำคัญในการโน้มน้าวใจ29. ฝึกฝน**: การฝึกฝน ช่วยพัฒนาทักษะการโน้มน้าวใจ
ฝึกฝน**: การฝึกฝน ช่วยพัฒนาทักษะการโน้มน้าวใจ30. ใช้พลังแห่งจิตใต้สำนึก**: จิตใต้สำนึก มีอิทธิพลต่อความคิด และการตัดสินใจ
ใช้พลังแห่งจิตใต้สำนึก**: จิตใต้สำนึก มีอิทธิพลต่อความคิด และการตัดสินใจCr.
ครูสงกรานต์ นาฏศิลป์ไทยละครพระ
“ต้มยำกุ้ง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การ UNESCO
“ต้มยำกุ้ง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การ UNESCO
วันที่นำเข้าข้อมูล 4 ธ.ค. 2567
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 4 ธ.ค. 2567
| 4,353 view
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage: ICS-ICH) ครั้งที่ 19 ณ กรุงอาซุนซิออน สาธารณรัฐปารากวัย มีมติให้ขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” หรือ “Tomyum Kung” ในบัญชีรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity – บัญชี RL) ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 (2003 Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO)
การขึ้นทะเบียน“ต้มยำกุ้ง” ในบัญชี RL ครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของไทยและถือเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในระดับสากลต่อคุณค่าและความสำคัญของ “ต้มยำกุ้ง” ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหาร ซึ่งถือเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีการสร้างสรรค์ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างหลากหลาย สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำลำคลองในภาคกลางของไทยตลอดหลายศตวรรษที่มีวัฒนธรรมการบริโภคอาหารผ่านการสังเกตและเรียนรู้จากธรรมชาติ รวมถึงความเรียบง่ายและการดำเนินชีวิตที่พึ่งพิงธรรมชาติ พึ่งพาตนเอง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีถ้อยแถลงผ่านวีดิทัศน์กล่าวแสดงความยินดีต่อการขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และย้ำความมุ่งมั่นของไทยที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ รวมถึงความพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับนานาประเทศในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
ปัจจุบัน ไทยได้ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในบัญชี RL แล้ว 5 รายการ ได้แก่ โขน (ปี 2561) นวดไทย (ปี 2562) โนรา (ปี 2564) สงกรานต์ในประเทศไทย (ปี 2566) และต้มยำกุ้ง (ปี 2567)
ชมบรรยากาศ
https://www.youtube.com/watch?v=cOxs_Snr88E
ที่มา
https://www.mfa.go.th/th/content/tomyum-kung-unesco-th?cate=5d5bcb4e15e39c306000683d
สมัครสอบท้องถิ่น
เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น (กดลิงค์นี้)
https://dla-local2568.thaijobjob.com
ประกาศคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๘ 
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ประกาศคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๘
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ประกาศคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๘ ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) สำหรับตำแหน่งเจ้าพนักงานการคลังปฏิบัติงาน ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ ตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ ตำแหน่งนักวิชาการจัดเก็บรายได้ปฏิบัติการ ตำแหน่งนักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ ตำแหน่งนักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ ตำแหน่งบรรณารักษ์ปฏิบัติการ และตำแหน่งนักสันทนาการปฏิบัติการ
บัญชีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
ภาคเหนือ เขต 1
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคเหนือ เขต 2
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคกลาง เขต 1
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคกลาง เขต 2
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคกลาง เขต 3
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคใต้ เขต 1
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ภาคใต้ เขต 2
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตำแหน่งครูผู้ช่วย
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ภาค ก
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ภาค ข ประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ภาค ข ประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ภาค ข ตำแหน่งครูผู้ช่วย
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ภาค ค
บัญชีลักษณะงานที่ปฏิบัติ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน บัญชีลักษณะงานที่ปฏิบัติ ประเภททั่วไป
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน บัญชีลักษณะงานที่ปฏิบัติ ประเภทวิชาการ
คลิกที่นี่เพื่ออ่าน บัญชีลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตำแหน่งครูผู้ช่วย
#ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ประกอบด้วย 10 เขต
(1) กลุ่มภาคกลาง เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง
(2) กลุ่มภาคกลาง เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราดจังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสระแก้ว
(3) กลุ่มภาคกลาง เขต 3 ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสุพรรณบุรี
(4) กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดมหาสารคาม
(5) กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี
(6) กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดอุดรธานี
(7) กลุ่มภาคเหนือ เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดลำพูน
(8) กลุ่มภาคเหนือ เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี
(9) กลุ่มภาคใต้ เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
(10) กลุ่มภาคใต้ เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดตรัง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดสมัครสอบข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 7-28 มีนาคม 2568 เช็กเงื่อนไขคุณสมบัติ บัญชีตำแหน่งที่เปิด ที่นี่
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ประกาศเปิด "สอบท้องถิ่น 2568" โดยคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะดำเนินการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นในตำแหน่งต่าง ๆ จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็น ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้
1. ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ประกอบด้วย 10 เขต
1.1 กลุ่มภาคกลาง เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง
1.2 กลุ่มภาคกลาง เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราดจังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสระแก้ว
1.3 กลุ่มภาคกลาง เขต 3 ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสุพรรณบุรี
1.4 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดมหาสารคาม
1.5 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี
1.6 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดอุดรธานี
1.7 กลุ่มภาคเหนือ เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดลำพูน
1.8 กลุ่มภาคเหนือ เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี
1.9 กลุ่มภาคใต้ เขต 1 ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
1.10 กลุ่มภาคใต้ เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดตรัง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล
2. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ของแต่ละตำแหน่ง รายละเอียดตามที่ระบุไว้ใน "บัญชีลักษณะงานที่ปฏิบัติ" ท้ายประกาศ
3. คุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
3.1 คุณสมบัติทั่วไป
ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นตามประกาศ คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เบื้องต้นสำหรับข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ประกาศคณะกรรมการกลาง พนักงานเทศบาล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับพนักงานเทศบาล ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 และประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับพนักงานส่วนตำบล ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติทั่วไปผู้มีสิทธิสมัครสอบท้องถิ่น 2568
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นคนมีสิทธิสมัครสอบท้องถิ่น 2568
- เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
- เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด คณะกรรมการ กลางพนักงานเทศบาล และคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบลกำหนด
- เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล และพนักงานส่วนตำบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคล ส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
- เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
- เป็นบุคคลล้มละลาย
- เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิด ทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
- เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
- เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนัก และพนักงานส่วนตำบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล และพนักงาน ส่วนตำบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
สำหรับพระภิกษุหรือสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 5 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17 มีนาคม 2538 และตามความในข้อ 4 ของคำสั่งมหาเถรสมาคม ที่ 1/2564 ลงวันที่ 28 กันยายน 2564 เรื่อง กรณีพระภิกษุสามเณรเรียนวิชา หรือสอบแข่งขัน หรือสอบคัดเลือกอย่างคฤหัสถ์ พ.ศ. 2564
3.2 คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
ผู้สมัครสอบต้องมีคุณวุฒิการศึกษาที่ ก.จ. ก.ท. ก.อบต. หรือ ก.พ. รับรองว่าตรงตาม คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัครสอบก่อนหรือในวันปิดรับสมัครสอบ โดยคุณวุฒิการศึกษาที่ตรงตาม คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งมีรายละเอียดตามที่ระบุไว้ใน "บัญชีตำแหน่งที่เปิดรับสมัครภาค/เขต" ตามข้อ 1
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "ครูผู้ช่วย" ต้องมีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอนที่ยังไม่ หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "วิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ, วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ, วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ” ต้องมีใบอนุญาตเป็น ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกำหนดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "สถาปนิกปฏิบัติการ" ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกำหนดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ" ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ" ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภาที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "นักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ" นอกจากมีคุณสมบัติ ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาฉุกเฉินการแพทย์ที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "นักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ" ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบำบัด หรือใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ของสภากายภาพบำบัดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง "นักสาธารณสุข" ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ทั้งนี้ สำหรับตำแหน่งที่คุณสมบัติตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกำหนดให้มีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพ ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่งที่ยังไม่หมดอายุ ในวันปิดรับสมัคร
สอบท้องถิ่น 68 สมัครสอบวันไหน เช็กเงื่อนไข ตำแหน่งบัญชีที่เปิดที่นี่
4. เปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2568 วันไหน?
รับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ที่เว็บไซต์ dla-local2568.thaijobjob.com / หัวข้อ "สมัครสอบแข่งขัน อปท."
ให้ผู้สมัครสอบกรอกข้อมูลการสมัครให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด พร้อมอัปโหลด (upload) ไฟล์ ดังนี้
1.) รูปถ่ายสีหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ พื้นหลังไม่มีลวดลาย ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ขนาด 1 นิ้ว โดยใช้รูปแบบไฟล์รูปภาพและขนาดตามที่ระบบกำหนด ทั้งนี้ รูปถ่ายจะปรากฏบนใบสมัครสอบ บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบสำหรับแสดงตนในการเข้าสอบ และหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาคความรู้ ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) กรณีที่รูปถ่ายไม่ถูกต้องอาจมีผลต่อการตรวจสอบตัวบุคคลในการเข้าสอบและหัวหน้า ผู้กำกับการสอบหรือกรรมการกำกับการสอบอาจไม่อนุญาตให้เข้าสอบ โดยถือเป็นความบกพร่องของผู้สมัครสอบเอง จะอ้างว่าระบบรับสมัครได้ทำการรับสมัครไว้แล้วไม่ได้
2.) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ที่ยังไม่หมดอายุ)
3.) สำเนาทะเบียนบ้าน
4.) สำเนาใบปริญญาบัตร/ประกาศนียบัตร และสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript of Records) ที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ตามประกาศรับสมัคร
โดยต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครคือ วันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่เป็นฉบับภาษาไทยเท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ระดับใด จะถือตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานการศึกษานั้น เป็นเกณฑ์ โดยให้อัปโหลด (upload) ไฟล์ คุณวุฒิการศึกษาที่ ก.พ. ก.จ. ก.ท. ก.อบต. หรือ ก.ค.ศ. รับรอง แล้วแต่กรณี
5.) สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ต้องไม่หมดอายุ) ดังนี้
- สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบ วิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน (กรณีสมัครสอบตำแหน่งครูผู้ช่วย)
- สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย กำหนด (กรณีสมัครสอบตำแหน่งวิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ)
- สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย กำหนด (กรณีสมัครสอบตำแหน่งสถาปนิกปฏิบัติการ)
- สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภา (กรณีสมัครสอบตำแหน่งนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ)
- สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือสาขา การพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง (กรณีสมัครสอบตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ)
- สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาฉุกเฉินการแพทย์ (กรณีสมัครสอบ ตำแหน่งนักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ)
- สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบำบัด หรือใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดของสภากายภาพบำบัด (กรณีสมัครสอบตำแหน่งนักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ)
- สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน (กรณีสมัครสอบ ตำแหน่งนักสาธารณสุขปฏิบัติการ)
ทั้งนี้ สำหรับตำแหน่งที่คุณสมบัติตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกำหนดให้มีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพ ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่งที่ยังไม่หมดอายุ ในวันปิดรับสมัคร
6.) เอกสารทางทหาร คือ
- หนังสือสำคัญ (แบบ สด.8)
- ใบสำคัญ (แบบ สด.9)
- ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (แบบ สด.43)
7.) สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ในกรณีชื่อ นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน)
หมายเหตุ : สำเนาหลักฐานให้อัปโหลด (upload) ประเภทของ ไฟล์เป็น .PDF ขนาดไม่เกิน 1 เมกะไบต์ (1 MB) เอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองว่า "สำเนาถูกต้อง" ลงลายมือชื่อและลายมือชื่อตัวบรรจง วันที่ พร้อมเขียนชื่อตำแหน่งที่สมัครสอบ กำกับไว้ทุกหน้า
"กรณีผู้สมัครไม่ได้อัปโหลด (upload) รูปถ่ายและเอกสารประกอบการสมัครจะไม่สามารถสมัครสอบได้"
ทั้งนี้ เมื่อยืนยันข้อความที่กรอกแล้ว ระบบจะออกใบตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครและปบบฟอร์มการชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบโดยอัตโนมัติ
ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ ?
- ค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน 400 บาท
- ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท
ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ การสมัครสอบจะมีผลสมบูรณ์เมื่อมีการชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครภายในระยะเวลาที่กำหนด
ชำระเงินที่ไหน?
นำแบบฟอร์มการชำระเงินไปชำระเงินค่าธรรมเนียมตั้งแต่วันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 ได้ที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย โดยสามารถชำระได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
- ชำระเงินสอบท้องถิ่น 68 ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย
- ชำระผ่านทางเคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (Teller Payment) ให้ผู้สมัครนำแบบฟอร์มการชำระเงินไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 ภายในวันและเวลาทำการของธนาคาร และให้เก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย
- ชำระผ่านแอปกรุงไทย Krungthai NEXT
- ชำระผ่านแอปฯ เป๋าตัง
- ชำระผ่านเครื่อง ATM
ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมสอบแล้ว จะได้รับเลขประจำตัวสอบ (การกำหนด เลขประจำตัวสอบโดยการสุ่ม) สามารถเข้าไปพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ ซึ่งจะประกาศให้ทราบในวัน ประกาศรายชื่อผู้สมัคร วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ที่เว็บไซต์ https://dla- local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "พิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ" แล้วพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ ที่มีเลขประจำตัวสอบลงในกระดาษ A4 ผู้สมัครสอบต้องลงลายมือชื่อในบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบให้ครบถ้วน ผู้สมัครสอบต้องตรวจสอบภาพถ่ายให้ตรงกับผู้สมัครสอบ เพื่อนำไปแสดงตนหรือส่งมอบให้เจ้าหน้าที่คุมสอบ ในวันสอบ
ผู้สมัครสอบที่มีความพิการทางสายตา (ตาบอดทั้งสองข้าง) ตามประกาศกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงวันที่ 30 เมษายน 2552 เรื่อง ประเภทและหลักเกณฑ์ความพิการ ข้อ 4 (1) ให้ระบุในการกรอกข้อมูลการสมัครด้วย เพื่อจะจัดให้เข้าสอบที่ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร หรือ ในสถานที่ ที่คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) กำหนดเท่านั้น
เงื่อนไขการสมัครสอบ ?
1. ผู้สมัครสอบจะสมัครสอบผ่านทางอินเทอร์เน็ต ได้เพียงครั้งเดียว เมื่อสมัครสอบแล้วจะไม่สามารถแก้ไขข้อความใด ๆ ได้อีก
2. ผู้สมัครสอบเลือกสมัครสอบได้เพียง 1 ตำแหน่ง และเลือกกลุ่มภาค/เขต ที่สมัครสอบได้ เพียง 1 กลุ่มภาค/เขต เมื่อสมัครแล้วจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้ (ผู้สมัครจึงต้องละเอียด รอบคอบ และตรวจสอบ การพิมพ์ชื่อ - สกุล เลขประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ ให้ถูกต้อง)
3. ผู้สมัครสอบจะต้องเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ที่สมัครสอบโดยต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายใน วันปิดรับสมัคร คือ วันที่ 28 มีนาคม 2568 ทั้งนี้ การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรระดับใด จะถือตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานศึกษานั้นเป็นเกณฑ์
4. การสมัครสอบตามประกาศนี้ ถือว่าผู้สมัครเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรองความถูกต้อง ของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น หากผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดทางอาญาฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
5. ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติ ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามความเป็นจริง ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัคร หรือหากภายหลังผู้สมัครรายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือตรวจพบว่าเอกสารและหรือหลักฐานคุณวุฒิซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศ รับสมัครสอบ ให้ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้มาตั้งแต่ต้นและไม่มีสิทธิ ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
6. หากปรากฏหลักฐานว่า ผู้สมัครมีการสมยอมให้มีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือ ให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ หรือทุจริตการสอบแข่งขันต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้สมัครสอบแข่งขัน เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต รวมทั้งต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา
การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบต่างๆ ?
คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ เข้าสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถเฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) และ จะประกาศ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/
โดยผู้สมัครสอบสามารถตรวจสอบชื่อผู้มีสิทธิสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ภาคความรู้ความสามารถที่ ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) และสถานที่สอบของตนเองได้ ที่หัวข้อ "ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ก ภาค ข และสถานที่สอบ"
ให้ผู้สมัครสอบพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ (ซึ่งมีรายละเอียดตำแหน่งที่สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ รูปถ่ายผู้สมัครสอบ เลขประจำตัวสอบ) ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "พิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ" ซึ่งจะประกาศให้ทราบในภายหลัง
หลักสูตรวิธีการสอบ ?
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน มี 3 ภาค รายละเอียดตามที่ได้กำหนดไว้ใน "หลักสูตรและ วิธีการสอบแข่งขัน" แนบท้ายประกาศนี้ ดังนี้
1. ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการสอบโดยข้อสอบปรนัย โดยคำนึงถึงระดับความรู้ความสามารถที่ต้องการ ตามระดับตำแหน่ง
1.1) วิชาความสามารถในการศึกษาวิเคราะห์และสรุปเหตุผล กำหนดคะแนนเต็ม 30 คะแนน
ให้ทดสอบความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์และสรุปเหตุผลโดยการให้สรุปความหรือ ให้จับประเด็นในข้อความหรือเรื่องราว หรือให้วิเคราะห์เหตุการณ์หรือสรุปเหตุผลทางการเมือง เศรษฐกิจหรือ สังคม หรือให้หาแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเป็นไปตามข้อมูลหรือสมมติฐาน หรือให้ศึกษาวิเคราะห์ และสรุปเหตุผลอย่างอื่น ซึ่งจะทดสอบความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้
1.2) วิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ กำหนดคะแนนเต็ม 30 คะแนน
ให้ทดสอบความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วย การจัดตั้งและอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเมืองพัทยา กฎหมายว่าด้วยการกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กฎหมายว่าด้วย การบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ระเบียบงานสารบรรณ การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี วิธีปฏิบัติราชการ ทางปกครอง และระเบียบกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ ตลอดจนเจตคติและจริยธรรมสำหรับ ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
1.3) วิชาภาษาไทย กำหนดคะแนนเต็ม 20 คะแนน
ให้ทดสอบความรู้และความสามารถในการใช้ภาษา โดยการให้สรุปความและหรือ
ตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำ หรือกลุ่มคำ ประโยคหรือข้อความสั้น ๆ หรือให้ทดสอบโดยการอย่างอื่นที่เหมาะสมกับการทดสอบความรู้ความสามารถดังกล่าว
1.4) วิชาภาษาอังกฤษ กำหนดคะแนนเต็ม 20 คะแนน
ให้ทดสอบความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ทางการอ่านการสรุปความ การตีความ หรือให้ทดสอบโดยการอย่างอื่นที่เหมาะสมกับการทดสอบความรู้ความสามารถดังกล่าว
2. ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้ เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการสอบโดยข้อสอบปรนัย โดยผู้สมัครสอบในตำแหน่งใดต้องสอบความรู้ ความสามารถในทางที่จะใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่โดยเฉพาะสำหรับตำแหน่งนั้น
3. ภาคความรู้ความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานและพฤติกรรมที่ปรากฏทางอื่นของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์
ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมอีกก็ได้ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้ประโยชน์ ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จริยธรรมและ คุณธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น
ผู้สมัครสอบทุกตำแหน่งต้องสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และ ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) ก่อน แล้วจึงให้ผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถ ทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) ตามเกณฑ์ในข้อ 9 แล้ว จะต้องยื่นหลักฐานเข้าสอบภาคความรู้ความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) ต่อไป
โดยจะประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิเข้าสอบภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบวิธีการสอบ ในภายหลังทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ “ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ค"
หลักฐานและเอกสารที่ต้องยื่นในวันสอบ ?
วันสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้ เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) ต้องนำหลักฐานต่อไปนี้มาแสดงต่อกรรมการหรือเจ้าหน้าที่คุมสอบเพื่อเข้าสอบ หากไม่นำมาแสดงกรรมการหรือเจ้าหน้าที่คุมสอบจะไม่อนุญาตให้เข้าสอบโดยเด็ดขาด
1. บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต
2. บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจำตัว ข้าราชการกลาโหม หรือบัตรประจำตัวทหารกองประจำการ ซึ่งปรากฏรูปถ่าย ลายมือชื่อ และเลขประจำตัว ประชาชน 13 หลักที่ชัดเจน และยังไม่หมดอายุ หากไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนหรือ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ ของรัฐ หรือบัตรประจำตัวข้าราชการกลาโหม หรือบัตรประจำตัวทหารกองประจำการดังกล่าว ให้ใช้เอกสาร รับรองรายการบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง (นายทะเบียนรับรอง)
ทั้งนี้ หากเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ไม่ตรงกับฐานข้อมูลการสมัครสอบ จะไม่อนุญาตให้เข้าสอบ แต่หากตรวจพบหลังจากเริ่มเวลาสอบแล้ว ผู้สอบรายนั้นจะต้องยุติการสอบโดยต้องนั่งอยู่ ในห้องสอบนั้นจนกว่าจะหมดเวลาสอบ และจะไม่ได้รับการตรวจให้คะแนน
3. หลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล (ในกรณีชื่อ - นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน)
เกณฑ์การตัดสิน ?
ผู้สอบแข่งขันได้ ต้องเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 60 โดยมีเงื่อนไขว่า วิชาภาษาอังกฤษต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ด้วย
สำหรับผู้สอบผ่านภาค ความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) สำนักงาน ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. จะออกหนังสือรับรองผลการสอบผ่าน ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก)
ซึ่งสามารถนำหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาคความรู้ความสามารถ ทั่วไป (ภาค ก) ไปใช้กับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน พนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ได้
โดยสามารถใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงาน ส่วนท้องถิ่น (ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต.) กำหนดเป็นอย่างอื่น
ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ในตำแหน่ง ที่บรรจุและแต่งตั้งในระดับปริญญาตรี ให้สามารถนำมาใช้สมัครสอบแข่งขันหรือบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่ง ที่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีได้
โดยผู้สอบแข่งขันได้ ต้องเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) และภาคความรู้ความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) แต่ละภาคได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
ดูคะแนนสอบที่ไหน ?
เมื่อประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้แล้ว คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน พนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะได้มีประกาศให้ผู้สมัครสอบสามารถดูคะแนนสอบได้ทางเว็บไซต์ https://dla- local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "ดูผลคะแนนสอบ" โดยกรอกเลขประจำตัว 13 หลัก และเลขประจำตัวสอบ
การประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน พนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ให้ถือเป็นที่สุด ผู้สอบไม่มีสิทธิขอให้ทบทวนแต่ประการใด !!
คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ดำเนินการสอบแข่งขันด้วย ความสุจริต และเที่ยงธรรม ดังนั้น หากมีบุคคลกลุ่มใดหรือผู้ใดแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ผู้สมัครสอบให้สอบแข่งขันได้ หรือมีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ โปรดอย่าได้หลงเชื่อ !!
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
-
แนวข้อสอบท้องถิ่น ชุดเตรียมสอบปี 2568-2569 ติดตาม 3 ช่องทาง เฟซบุ๊ก ยูทูบ ติ๊กต๊อก บัญชีชื่อ(ประพันธ์ เวารัมย์) #หากต้องการสนับสนุนค่ากา... -
#ตอนนี้สายงานผู้บริหารท้องถิ่นประกาศผลสอบแล้วดังนี้ (1) ชุมพร http://www.cpnlocal.go.th หรือ https://drive.google.com/drive/folders/1K4-Y6H...
-
เลือกสอบจังหวัดทึ่ชอบ ไปอยู่ อปท. ที่ใช่ ที่สุดของอัพเดท 41 จังหวัดแล้วนะเธอ ที่เปิดสอบสายบริหาร จะไปทางจังหวัดไหน สุดแต่ใจเธอ😘😀🙏 ประ...